ผู้ชมทั้งหมด 977
กกพ.ออกประกาศ เลื่อนกรอบระยะเวลาลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ครั้งที่ 6 อีกไม่เกิน 60 วัน สิ้นสุด 27 ก.พ.66 ตามที่ กฟภ.เสนอ
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า การประชุม กกพ. ครั้งที่ 61/2565 (ครั้งที่ 828) เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 มีมติเห็นชอบประกาศเปลี่ยนแปลงกรอบระยะเวลาลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ครั้งที่ 6 โดยขยายระยะเวลาลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าออกไปไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่ 29 ธ.ค.2565 หรือ ไปสิ้นสุดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ตามที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เสนอ
ทั้งนี้ ประกาศเปลี่ยนแปลงกรอบระยะเวลาลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนั้น เพื่อให้ กฟภ. พิจารณาจัดเตรียมเอกสารและประสานกับผู้ผลิตไฟฟ้า ขอยืนยันการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายหลังจากที่ กฟภ. ได้รับผลการพิจารณาจาก ป.ป.ช. แล้ว
สำหรับการพิจารณาคัดเลือกโรงไฟฟ้าชุมเพื่อเศรษฐกิจฐานราก(โครงการนำร่อง)นั้น ทางกกพ.ได้ประกาศเมื่อ 23 ก.ย. 2564 มีผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 43 ราย คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 149.50 เมกะวัตต์ (ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.1831 บาทต่อหน่วย) แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทชีวมวลจำนวน 16 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 75.00 เมกะวัตต์ (ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 2.7972 บาทต่อหน่วย) และโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทก๊าซชีวภาพรวม 27 รายปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 74.50 เมกะวัตต์ (ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.5717 บาทต่อหน่วย) ตามกรอบเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนดเป้าหมายจากเชื้อเพลิงชีวมวล 75 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์