ผู้ชมทั้งหมด 361
“ศักดิ์สยาม” สั่งทล.- กทพ.- ขบ. ร่วมกันพัฒนาระบบ M-Flow นำเทคโนโลยี AI มาใช้จัดเก็บค่าผ่านทาง เริ่มทดลองนำร่องใช้ 29 ต.ค. 64 ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายกับผู้หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางของระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ระหว่างนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้บริการระบบ M-Flow
โดยมี นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ โฆษกประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนกองบังคับการตำรวจทางหลวง และสื่อมวลชนร่วมพิธีลงนาม ในวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ณ ห้องประชุมอาคารสโมสรและหอประชุม กระทรวงคมนาคม
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางบนท้องถนน โดยเฉพาะบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย จึงได้มอบหมายให้ ทล.และกทพ. ร่วมกันศึกษา พัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้จัดเก็บค่าผ่านทาง ด้วยการใช้ระบบ Video Tolling ตรวจจับป้ายทะเบียนทำให้รถสามารถขับผ่านด่านเก็บเงินได้ โดยไม่ต้องชะลอ ช่วยระบายรถบริเวณหน้าด่านได้เร็วกว่าเดิมถึง 5 เท่า หรือประมาณ 2,000 คัน/ช่อง/ชั่วโมง เป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่าน
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ทางสามารถใช้ความเร็วต่อเนื่อง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมบูรณาการการทำงานร่วมกันให้เป็นรูปธรรมและเป็นมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ทำให้สามารถใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษได้ทุกเส้นทาง
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ทล. กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และกทพ.ในการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้บริการระบบ M-Flow โดยมีขอบเขตการดำเนินงานร่วมกันได้แก่
1. การพัฒนาและปรับปรุงระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีของ ขบ. โดยการจัดเตรียมช่องทางในการตรวจสอบยอดค้างชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และปรับปรุงโปรแกรมชำระภาษีของ ขบ. เพื่อให้สามารถชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ที่ค้างชำระได้
2. การรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ที่ ขบ.ในขั้นตอนการต่อภาษีรถประจำปี แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของ ขบ. เป็นพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ. กำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. 2497 เพื่อให้สามารถรับชำระค่าธรรมเนียม ค่าเสียหายและค่าปรับของระบบ M-Flow ที่ค้างชำระ โดย ขบ. จะเป็นผู้เก็บรักษาและนำส่งเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ให้กับทล.และกทพ.
3. การบังคับใช้กฎหมาย กับผู้ที่หลีกเลี่ยงไปชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางของระบบ M-Flow โดยหากมีผู้หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง หรือผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกแล้วฝ่าฝืน ขับรถเข้าไปในช่องทาง M-Flow ทล. และ กทพ. จะจัดส่งข้อมูลและเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำผิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดในกฎหมายต่อไป
ส่วนรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางจะเป็นการผ่านก่อนจ่ายทีหลัง โดยเจ้าของรถจะต้องลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกผ่านทาง www.mflowthai.com หรือ Mobile Application : Mflow หรือที่จุดบริการ เพื่อชำระค่าผ่านทางผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การหักบัญชีธนาคาร และการตัดชำระผ่านระบบ Pre-Paid ที่สามารถเลือกชำระเป็นรายเดือนหรือตามรอบบิลให้กับ ทล.และกทพ.
สำหรับในช่วงแรก ทล. ได้ออกโปรโมชั่นใช้ฟรี 2 ครั้งจำนวน 1 แสนสิทธิ์ เพื่อเป็นการจูงใจผู้ใช้รถใช้ถนนให้มาทดลองใช้บริการ โดยจากจำนวนผู้ใช้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ ประมาณ 300,000 เที่ยว/วัน ทล.จึงตั้งเป้าว่าจะมีผู้สมัครเข้าทดลองใช้บริการในช่วงแรกประมาณ 100,000 ราย
สำหรับแผนการดำเนินงานติดตั้งระบบ M-Flow ในระยะแรกจะเริ่มดำเนินการนพร่องบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 บริเวณด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 และทางพิเศษฉลองรัช ณ บริเวณด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2
โดยบริเวณด่านจะกำหนดให้มีช่องทางวิ่งเฉพาะสาหรับระบบ M-Flow แยกออกจากช่องเก็บเงินสดและช่องเก็บเงิน ด้วยบัตรอัตโนมัติ (M-Pass/Easy Pass) ซึ่งจะยังคงเปิดให้ใช้งานได้เพียงบางส่วนควบคู่ไปกับช่องทางระบบ M-Flow เพื่อสร้างการเรียนรู้และความเข้าใจกับประชาชนผู้ใช้ทาง
ทั้งนี้ทล.จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิก เพื่อร่วมทดลองใช้บริการและร่วมทดสอบการทางานของระบบ M-Flow บนทางหลวงพิเศษระหว่าง เมืองหมายเลข 9 ในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ส่วนทางพิเศษฉลองรัชบริเวณด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ กทพ. จะเปิดทดลองใช้บริการและร่วมทดสอบระบบเสมือนจริง (Soft Opening) ในช่วงเดือนมีนาคม 2565
โดยหลังจากเปิดให้ทดลองใช้เสมือนจริงบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 แล้วทล.จะมีการประเมินผลทั้งความเข้าใจในความเสถียรของระบบ และพฤติกรรมของผู้ใช้ทาง เพื่อนำมาปรับปรุงก่อนเปิดให้บริการจริงต่อไป