ผู้ชมทั้งหมด 693
“ชาร์จ แมเนจเม้นท์” ผนึก “แสนสิริ” ขยายผลความร่วมมือบุกโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวสูง-แนวราบ ติดตั้ง EV Charging รวม 1,500 จ่าย สนองความต้องการลูกค้ายุคใหม่หันใช้พลังงานสะอาด รับเทรนด์ตลาดรถ EV ในไทยโตต่อเนื่อง
เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า(EV) ในประเทศไทย ที่กำลังเริ่มโตตามกระแสโลกหันใช้พลังงานสะอาดเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เห็นความสำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เมื่อ 5 ปีก่อน ได้ตัดสินใจเข้าไปร่วมมือกับ พันธมิตรอย่าง บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ในการติดตั้ง EV Charging Station ในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ นำร่องโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 95 หัวชาร์จ (50 เครื่อง) ใน 28 โครงการ
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2021/09/คุณอุทัย-แนวนอน-1024x683.jpg)
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า ก้าวต่อไประหว่างแสนสิริ และ SHARGE เพื่อสานต่อนโยบาย Sansiri Sustainability Mission ในการร่วมสร้างปรากฎการณ์แห่งอนาคต เพื่อสร้างเทรนด์ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่นำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ได้กำหนดเป็นโรดแมป 3 ปี (2565-2567) โดยกำหนดเป้าหมายขยายการติดตั้ง EV Charging Station ให้ครอบคลุมโครงการแนวสูงที่เปิดใหม่ และโครงการแนวราบในระดับเซ็กเมนต์ B ขึ้นไปทุกโครงการ โดยจะติดตั้งเครื่องชาร์จ EV ราว 1,500 เครื่อง ภายใน 3 ปี ภายใต้งบลงทุน 65 ล้านบาท หรือ อยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นบาทต่อหัวจ่าย
โดยโครงการบ้านเดี่ยวในเซ็กเมนต์ B ขึ้นไป จะได้รับพริวิลเลจพิเศษ เป็นเครื่องชาร์จ ABB Terra AC Wallbox (Normal Charge) นำเข้าโดย SHARGE ที่สามารถชาร์จได้เร็วถึง 4-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดรถ) ซึ่งการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับที่อยู่อาศัยในครั้งนี้สอดคล้องกับการสำรวจพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่และผู้อยู่อาศัยแสนสิริในเซกเมนต์ B ขึ้นไป ที่พบว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จเร็ว (Young Success) และมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวีตแบบยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม บางส่วนเป็นเจ้าของรถ EV หรือกำลังมองหารถ EV เพื่อใช้ในอนาคต
“เมื่อ 5 ปีก่อนลูกบ้านของแสนสิริ มีการใช้รถ EV ไม่ถึง 10 คันในโครงการแต่ปัจจุบัน มีค่ายรถทั้งยุโรป จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เริ่มผลิตรถEV ออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้วันนี้ในโครงการน่าจะมีลูกบ้านใช้รถEVกว่า 100 คันแล้ว จึงจำเป็นต้องมีหัวจ่ายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้รถEV”
นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) เปิดเผยว่า จุดแข็งที่สำคัญของ SHARGE คือการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งจากหลากหลายอุตสาหกรรม และการได้เข้าร่วมเป็น Strategic Partner กับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่เล็งเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ EV ตลอดจนไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่ต้องการชาร์จรถที่บ้าน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับโรดแมปของประเทศที่ภาครัฐให้การสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ EV เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาเปลี่ยนแปลงการใช้ EV มากขึ้น
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2021/09/คุณพัตเตอร์-1024x683.jpg)
โดย แสนสิริ ได้ร่วมกับ SHARGE ในการออกแบบและขยายโซลูชั่นรองรับการใช้รถ EV และการเข้าถึงสถานีชาร์จ เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกบ้านแสนสิริ และนำมาสู่ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง SHARGE กับแสนสิริอีกครั้ง ด้วยการเซ็ตเทรนด์ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ในการติดตั้งเครื่องชาร์จ EV ในที่อยู่อาศัย ที่จะเติบโตไปตามเทรนด์ของโลกที่ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม
“ปกติวอลุ่มของบริษัท จะติดตั้งราว 200 หัวจ่ายต่อปี แต่การขยายความร่วมมือกับแสนสิริ อีก 1,500 หัวจ่าย จะทำให้ในปีหน้าบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด”
ทั้งนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ สอดคล้องกับโรดแมป 5 ปี ของ SHARGE ที่ตั้งเป้าหมายดำเนินผ่านกลยุทธ์ ‘LIFESTYLE CHARGING ECOSYSTEM: NIGHT, DAY, ON-THE-GO’ เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์และอำนวยคามสะดวกในการใช้ชีวิตของลูกค้าอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดยร่วมมือกับภาคอสังหาริมทรัพย์ (ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยและศูนย์การค้า) ผู้ประกอบการรถยนต์ และธุรกิจพลังงาน สร้างระบบนิเวศที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายตามพฤติกรรมของผู้บริโภค
นายพีระภัทร กล่าวอีกว่า นโยบายส่งเสริมการใช้รถ EV ของรัฐบาลในต่างประเทศ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตของรถEV เพราะมีการออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนที่ชัดเจน แต่ในประเทศไทยการนำเข้ารถEV ที่มีอัตราภาษีในระดับสูงยังถือเป็นอุปสรรคและทำให้การใช้รถEV เติบโตช้า ขณะที่การแข่งขันในธุรกิจใช้บริการติดตั้ง EV Charging Station ที่มีผู้เล่นหลายเจ้านั้น บริษัท มองว่าเป็นผลดีที่จะสนับสนุนให้ตลาดรถEV เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย และผู้เล่นแต่ละรายก็จะมีความเชี่ยวชาญหรือจุดขายที่แตกต่างกัน ดังนั้น มองว่าตลาดนี้ยังมีขนาดใหญ่พอที่บริษัทจะเข้าไปขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ในอนาคต