ทช.อัดงบกว่า 6,500 ล้านสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา – สะพานเชื่อมเกาะลันตา

ผู้ชมทั้งหมด 317 

ศักดิ์สยาม” มอบนโยบายครบรอบ 20 ปี ศึกษาโมเดลต่างประเทศ ดึงเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ด้าน ทช.เดินหน้ายกระดับทางและสะพานทั่วไทย ลุยสร้าง 2 โครงการใหญ่สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา และสะพานเชื่อมเกาะลันตา งบฯรวมกว่า 6,500 ล้าน หนุนเศรษฐกิจคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ณ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) บางเขน กรุงเทพฯ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนากรมทางหลวงชนบท ครบรอบ 20 ปี โดยนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และข้าราชการ เข้าร่วมงาน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขณะนี้ ทช.สามารถเบิกจ่ายงบประมาณปี 2565 ได้ 90.63% ที่เหลือก็เป็นความท้าทายที่ต้องทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งตนได้มอบนโยบายให้ ทช. เร่งผลักดันโครงข่ายถนน โครงการที่จะทำตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อสนับสนุนโครงการทางหลวง รถไฟ และท่าเรือสำคัญ เพื่อทำให้ประชาชนเข้าถึงภาคขนส่งได้ทุกมิติ ที่สำคัญขอให้ ทช.มองแนวทางแก้ปัญหาโครงการต่างๆให้ชัดเจน ตอบโจทย์ประชาชน เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นว่าแต่ละโครงการสร้างเพื่อพัฒนาไม่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อม นำไปสู่เป้าหมายให้ไทยเป็นฮับอาเซียนในปี 2580

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กรมทางหลวงชนบท ( ทช.) ศึกษาดูงานจากต่างประเทศและนำมาประยุกต์ใช้ โดยให้ดูความสำเร็จในอาเซียน และสิงคโปร์ที่พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว หรือแม้แต่โครงการรถไฟของประเทศลาว ซึ่งทลายสิ่งที่เป็นข้อจำกัดทางโอกาส จากการพัฒนาพื้นที่ไข่แดงบนแผ่นดินใหญ่ ไม่มีอาณาเขตเชื่อมทางทะเล เป็นเสมือนพื้นที่ปิด( Land Lock )  แต่วันนี้ลาวได้ใช้โลจิสติกส์เป็นกำลังสำคัญทำให้ประเทศเป็นพื้นที่เชื่อมต่อ(Land Link) ไปยังพื้นที่อื่นๆได้ อีกทั้งยังสามารถพัฒนาโครงการได้สำเร็จตามแผน โดยใช้เทคโนโลยีในการวางแผนก่อสร้าง เช่น ขุดเจาะอุโมงค์ทางลอดต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ ทช.สามารถนำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาโครงการต่างๆ ได้

ด้านนายอภิรัฐ กล่าวว่า ปัจจุบัน ทช.มีโครงข่ายในความรับผิดชอบทั่วประเทศ จำนวน 3,402 สายทาง ระยะทางรวม 49,123.785 กิโลเมตร (กม.)  โดยในปีงบประมาณ 2566 ทช.ได้รับงบฯ 47,108.9146 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามภารกิจและนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ งานก่อสร้างถนนเพื่อยกระดับมาตรฐานชั้นทาง ถนนเพื่อสนับสนุนเส้นทางรถไฟทางคู่, พัฒนาถนนผังเมือง, สนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก, ถนนสนับสนุนการท่องเที่ยว, ถนนเพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และถนนเพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่ง โดยมีการก่อสร้างถนน จำนวน 392 โครงการ ระยะทาง 1,159.833 กิโลเมตร สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กทั่วประเทศ จำนวน 111 โครงการ ความยาวรวม 5,763 เมตร งานบำรุงรักษาทาง จำนวน 49,123 กม. และงานอำนวยความปลอดภัย จำนวน 1,873 แห่ง

สำหรับโครงการสำคัญขนาดใหญ่ในปีงบฯ66 ได้แก่ โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา – อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง  วงเงินก่อสร้าง 4,700 ล้านบาท และโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ต.เกาะกลาง- ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ วงเงินก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท ปัจจุบันสถานะของทั้ง 2 โครงการได้ออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ และรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2566 และจะแล้วเสร็จสามารถเปิดใช้งานได้ในปี 2569 

นอกจากนี้ยังมีโครงการสำคัญอื่นๆ อาทิ โครงการถนนสาย ง2 ผังเมืองรวมเมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด, โครงการถนนสาย ฌ ผังเมืองรวมเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์, ถนนสาย ชบ.3023 แยก ทล.315 – บ.หนองปลาไหล อ.พานทอง, บ้านบึง จ.ชลบุรี, โครงการถนนสาย ฉช.2004 แยก ทล.34 – ทล.314 อ.บางปะกง, เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตอนที่ 1,ถนนสายแยก ทล.4103 – ถนนพุทธภูมิ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และโครงการถนนสาย พท.4004 แยก ทล.4081 – บ้านฝาละมี อ.เขาชัยสน, บางแก้ว, ปากพะยูน จ.พัทลุง

ขณะที่โครงการสำคัญในปีงบประมาณ 2565 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ โครงการก่อสร้างถนนสาย สป.1011 แยก ทล.3 – เทพารักษ์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ งบประมาณ 590 ล้านบาท, โครงการก่อสร้างถนนสาย ง2 และ ง3 ผังเมืองรวมเมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร งบประมาณ 372.780 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 ,โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู อ.ละงู จ.สตูล งบประมาณ 291.013 ล้านบาท, โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล 433.190 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2566 ,โครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี งบประมาณ 902 ล้านบาท ,โครงการก่อสร้างถนนสาย มห.3019 แยก ทล.212 ถึง บ้านบางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร งบประมาณ 804.159 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.3452 – สี่แยกบ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี งบประมาณรวมทั้ง 2 ตอน 1,799.999 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567

อย่างไรก็ตาม ทช.ยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้งานของเรามีคุณภาพและเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป