ผู้ชมทั้งหมด 162
”ปตท.- โออาร์“ ชี้แจงข่าวลือ DSI ตรวจสอบธุรกรรมไบโอดีเซล ยันข้อกล่าวหาปี 66 ปราศจากมูลความจริง ชี้พบกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริต เข้ามาถือหุ้นในบริษัทในเครือของ ปตท. เพื่อใช้เป็นฐานในการขึ้นฟ้องคดีผู้บริหารฯ ต่อศาล เตรียมเดินหน้าเอาผิดทางกฎหมาย
สืบเนื่องจากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อออนไลน์อ้างว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สรุปสำนวนเชื่อว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PTT และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของOR เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ. หลักทรัพย์ ฯลฯ พร้อมแนบลิงก์จากต่างประเทศให้ดาวน์โหลดหนังสือจากดีเอสไอ
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) และ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)(OR) ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงกรณีดังกล่าวฯ โดย PTT ขอเรียนชี้แจง ดังนี้
ข่าวดังกล่าวมีที่มาจากตัวแทนของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริตที่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทเครือ PTT เพียง 100 หุ้น เพื่อใช้เป็นฐานยื่นฟ้องคดีผู้บริหารฯ ต่อศาลด้วยข้อกล่าวหาที่ปราศจากมูลความจริง มีเจตนาสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของ PTT และ บริษัทในเครือ รวมถึงผู้บริหารฯ
ข่าวดังกล่าวมีเนื้อหาที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง หนังสือของดีเอสไอเป็นเพียงเอกสารที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวนำมาอ้างเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ปัจจุบัน ศาลยังไม่ได้รับคำฟ้อง และดีเอสไอยังไม่ได้สรุปสำนวนตามที่กล่าวอ้าง เชื่อว่าข่าวนี้เป็นความพยายามของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริต บิดเบือนข้อเท็จจริง พยายามกล่าวหาและโจมตีผู้บริหารฯ มาโดยตลอด
กลุ่มบุคคลนี้ได้ยื่นเรื่องต่อPTT ขอให้ตรวจสอบในปี 66 ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบของPTT และบริษัทจดทะเบียนในเครืออีก 3 แห่งที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ OR , บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และบมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาแล้ว ปรากฏว่าปราศจากมูลความจริง ธุรกรรมที่เกิดขึ้นเป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติ และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทั้งOR และ GGC
โดยการกระทำของกลุ่มบุคคลนี้มีเป้าประสงค์เพื่อบ่อนทำลายชื่อเสียงของPTT กลุ่มบริษัทในเครือ และผู้บริหารฯ ด้วยกลยุทธ์ไม่โปร่งใสและมีเจตนาแอบแฝง เช่น การเริ่มต้นเผยแพร่หรือแชร์เอกสารผ่านบัญชีสื่อโซเชียลที่เป็น “บัญชีอวตาร” ส่วนใหญ่มักเป็นบัญชีปลอมหรือไม่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้ได้ รวมทั้งใช้ลิงก์จากต่างประเทศเพื่อให้ดาวน์โหลดหนังสือของดีเอสเอ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบและการดำเนินการทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม PTT อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียง ขอให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ และหลีกเลี่ยงการเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่อาจบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด สร้างความเสียหายต่อกลุ่มPTT และส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น สถานการณ์ดังกล่าวอาจเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่เหมาะสม ในขณะที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับผลกระทบด้านลบ นักลงทุนจึงควรตรวจสอบและพิจารณาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
ทั้งนี้ ปตท. ขอยืนยันในความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
ขณะที่ OR ขอเรียนชี้แจงดังนี้ 1.ข่าวดังกล่าวมีเนื้อหาที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง หนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น เป็นเพียงเอกสารที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวนำมาอ้างเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ปัจจุบันศาลยังไม่ได้รับคำฟ้องดังกล่าว และกรมสอบสวนคดีพิเศษเองก็ยังไม่ได้มีการสรุปสำนวนตามที่มีการกล่าวอ้างในข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด
2. OR เชื่อว่าข่าวดังกล่าวเป็นความพยายามของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริตซึ่งพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงพร้อมทั้งพยายามกล่าวหาและโจมตีผู้บริหารฯ มาโดยตลอด โดยกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริตดังกล่าวได้ยื่นเรื่องตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อ OR ให้ตรวจสอบในปี 2566 ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบของ OR และคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทที่เกี่ยวข้องได้แก่ ปตท. บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) และบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) ได้การตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาแล้ว ผลการตรวจสอบปรากฏว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวปราศจากมูลความจริงธุรกรรมที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของการด าเนินธุรกิจตามปกติ และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทั้งOR และ GGC
3) การกระทำของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริตในการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์มีลักษณะเป็นการกระทำที่มีเป้าประสงค์เพื่อบ่อนทำลายชื่อเสียงของผู้บริหารฯ ผ่านกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงความไม่โปร่งใสและเจตนาแอบแฝง เช่นการเริ่มต้นเผยแพร่หรือแชร์เอกสารผ่านบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็น “บัญชีอวตาร” ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นบัญชีปลอมหรือไม่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการใช้ลิงก์จากต่างประเทศเพื่อให้ดาวน์โหลดหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งเป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบและการดำเนินการทางกฎหมาย
4) OR จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เหมาะสม เพื่อปกป้องสิทธิ ชื่อเสียง และผลประโยชน์ของกิจการ รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียของ OR ทั้งนี้ ขอให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข่าวสารที่ได้รับ และหลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความเสียหายต่อ OR และส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น โดยสถานการณ์ดังกล่าวอาจเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่เหมาะสมในขณะที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับผลกระทบด้านลบ นักลงทุนจึงควรตรวจสอบและพิจารณาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ก่อนตัดสินใจดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
อย่างไรก็ตาม OR ขอยืนยันในความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น