ผู้ชมทั้งหมด 1,075
“เอสซีจี” ยกระดับหลังคาชูจุดแข็งความเป็น “SCG ROOF EXPERT” อาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญด้านหลังคามากว่า 80 ปี พัฒนานวัตกรรม SCG Solar Roof Solutions ช่วยลดค่าไฟได้สูงสุด 60% และนวัตกรรม Living Comfort ที่ช่วยสร้างคุณภาพอากาศ ระบายความร้อนออกทางหลังคา
นายธงชัย โสภณ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจหลังคา บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด ในเครือเอสซีจี เผยว่า “สถานการณ์ Covid-19 ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคทั้งโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและคาดว่าจะไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกต่อไป ทุกคนจะระมัดระวังตัวและใช้ชีวิตโดยให้ความสำคัญ ใส่ใจเรื่อง Personal Space & Hygiene มากขึ้น รูปแบบการทำงานแบบไฮบริด ผสมผสานการทำงานในสำนักงานกับ work from home มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น จึงหันมาปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยโดยเน้นพื้นที่ส่วนตัวที่ช่วยสร้างความสบายในการอยู่อาศัยภายในบ้านของตนเอง”
เอสซีจี ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านวัสดุก่อสร้างและมีทีมงานที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านหลังคามายาวนาน มุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนาโซลูชั่นที่สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าวภายใต้แนวคิดนวัตกรรมหลังคาที่ช่วยตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่อยู่สบาย ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน
“จากการที่เอสซีจี มีประสบการณ์ด้านหลังคามากว่า 80 ปี เราตระหนักดีว่า สินค้าคุณภาพดี ต้องควบคู่กับการติดตั้งด้วยมาตรฐานที่ดีด้วย เพื่อให้หลังคาบ้านสมบูรณ์แบบทั้งระบบ มั่นใจไร้กังวลกับปัญหาด้านหลังคาที่จะตามมาภายหลัง ดังนั้นเราจึงพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีการติดตั้งหลังคาบ้านใหม่และปรับปรุงหลังคาบ้านเก่าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังไม่หยุดที่จะพัฒนานวัตกรรมหลังคาที่ช่วยลดค่าไฟให้บ้านอย่าง SCG Solar Roof Solutions และนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อนอบอ้าว และกรองอากาศสะอาดปลอดภัยให้แก่บ้านอย่าง Living Comfort Solutions ทั้งหมดนี้เพื่อยกระดับหลังคาด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยยุคใหม่ ภายใต้แนวคิดMORE THAN ROOF”นายธงชัย กล่าว
จากการที่ต้อง Work from home ทำให้มีการใช้ไฟ – เปิดแอร์ช่วงกลางวันมากขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น เจ้าของบ้านจึงมองหาโซลูชั่นที่ช่วยลดรายจ่ายเรื่องค่าไฟ หลังคา เอสซีจีจึงส่งมอบ SCG Solar Roof Solutions เพื่อช่วยลดค่าไฟให้เจ้าของบ้านสูงถึง 60% มาพร้อมนวัตกรรม Solar Fix ที่ได้รับการพัฒนาออกแบบมาสำหรับติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาโดยเฉพาะป้องกันการรั่วได้สมบูรณ์แบบ และมีรับประกันให้มากถึง 25 ปี รวมถึงยังเน้นระบบโซลาร์ รูฟสำหรับกลุ่มธุรกิจ SME ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟช่วงกลางวันอยู่แล้ว นับเป็นพลังงานสะอาด ที่ช่วยประหยัดค่าไฟและคืนทุนเร็วให้กับธุรกิจได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่บ้านจะต้องเผชิญปัญหา PM2.5 เชื้อโรค และมลภาวะทางอากาศหนักทุกปี การสร้างคุณภาพอากาศที่ดีและสภาวะอยู่สบายในบ้านก็มีความสำคัญมากเช่นกัน จึงพัฒนา Living Comfort Solutions เพื่อตอบโจทย์บ้านอยู่สบายสำหรับวิถีชีวิตปัจจุบัน ด้วยนวัตกรรม SCG Active AIRflow System ที่แก้ปัญหาบ้านร้อน อบอ้าว ให้เย็นลง 2-5 องศา
รวมถึงนวัตกรรมใหม่ล่าสุด SCG Active AIR Quality ที่ช่วยสร้างอากาศสะอาดและปลอดภัย โดยการปรับอากาศให้มีคุณภาพดีตั้งแต่เข้าบ้าน สร้างอากาศในบ้านให้เป็น Positive Pressure พร้อมดันอากาศเสียออกนอกบ้าน และด้วยจุดเด่นที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ 99%, สามารถดักจับเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส รวมถึงกลุ่มไวรัสโคโรน่า ได้สูงสุด 99% นอกจากนี้ยังเพิ่มปริมาณอ๊อกซิเจนเข้าสู่บ้าน เพื่อเพิ่มคุณภาพในการนอน อีกทั้งจะช่วยกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายนอกไม่ให้เข้าบ้าน และปรับความชื้นในบ้านให้สมดุล จึงรู้สึกสบายตัวยิ่งขึ้น
นายธงชัย กล่าวต่อว่า “ปัจจุบันเป็นยุค Digital Transformation เราจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยให้เข้าถึงและเข้าใจ Personal Life ลูกค้ามากขึ้น สำหรับเจ้าของบ้านที่ติดโซลาร์ รูฟ สามารถเช็คการประหยัดไฟได้อย่าง Real Time ทั้งรายวัน รายเดือน รายปี ผ่านแอปพลิเคชัน SCG Solar Solutions และในส่วนของ Living Comfort ก็มี sensor ควบคุมการทำงานของ SCG Active AIRflow System และ SCG Active AIR Quality ให้เกิดสภาวะอยู่สบาย โดยสามารถดูการทำงานผ่านระบบแอปพลิเคชันได้แบบ Anywhere Anytime เช่นกัน”
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถพบกับโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ได้ที่งานบ้านและสวนแฟร์ 2021 ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 17-26 ธันวาคม 2564 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา หรือขอรับคำปรึกษาฟรีได้ที่ SCG HOME EXPERIENCE, SCG HOME SOLUTION, SCG ROOFING CENTER และ SCG HOME บุญถาวร และ หรือสอบถามรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ SCG HOME Contact Center โทร.02-586-2222 หรือ แอดไลน์ LINE ID : @SCGBrand และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.scgbuildingmaterials.com/th/product/roof