กบง. เตรียมประชุมเร็วๆนี้ พิจารณาราคา LPG ก่อนสิ้นสุดมาตรการตรึงราคา 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ในวันที่ 31 ต.ค. 2568 คาดตรึงราคาต่อเท่าเดิม เป็นเวลา 4 เดือนตามนโยบาย Quick Big Win ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน
มาตรการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะสิ้นสุดลงวันที่ 31 ต.ค. 2568
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธาน กบง. จึงเตรียมเปิดประชุมเร็วๆ นี้ เพื่อพิจารณาราคาก๊าซ LPG โดยคาดหมายว่า ที่ประชุมจะกำหนดนโยบายตรึงราคา LPG ไว้ที่ปัจจุบันและต่อเนื่อง 4 เดือนตามระยะเวลาบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ อีกทั้งยังเป็นไปตามนโยบาย Quick Big Win ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน
โดยปัจจุบันราคา LPG จำหน่ายอยู่ที่ 25.87 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่ตรึงไว้ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม แต่เนื่องจากราคา LPG โลกปรับตัวลดลงทำให้ราคาที่แท้จริงถูกกว่าอยู่ที่ 24.96 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้นกองทุนฯ จึงเรียกเงินบางส่วนกลับคืนกองทุนฯ เนื่องจากที่ผ่านมาบัญชี LPG ถูกนำไปชดเชยราคาจนทำให้บัญชีติดลบกว่า 4.1 หมื่นล้านบาท โดยตั้งแต่วันที่ 15-27 ต.ค. 2568 กองทุนฯ จะเก็บเงินเข้ามาได้ 0.91 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่ ราคา LPG โลกล่าสุดอยู่ที่ 485 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ลดลงจากเดือน ก.ย. 2568 ที่อยู่ประมาณ 516.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน แต่ปกติปลายปีจะเป็นช่วงที่ราคา LPG ปรับสูงขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้เกิดการซื้อตุน LPG เพื่อเป็นเชื้อเพลิงสร้างความอบอุ่น
ด้านสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 19 ต.ค. 2568 ติดลบรวม 14,754 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน อยู่ที่ 26,910 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบรวม 41,664 ล้านบาท โดยบัญชี LPG ยังมีเงินไหลเข้า 34.51 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 1,035 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงาน ยืนยันว่าจะดูแลกองทุนฯ ให้มีเสถียรภาพที่ดี โดยเงินกองทุนฯ สามารถเป็นบวกหรือลบก็ได้ ซึ่งเงินจะบวกหรือลบไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่จะเน้นการบริหารให้มีเสถียรภาพก่อน
อย่างไรก็ตาม กบง.ได้กำหนดกรอบการชดเชยราคา LPG ไว้วงเงินไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ปัจจุบันใช้ไปแล้ว 41,664 ล้านบาท ยังเหลือเงินชดเชยราคาได้อีก 8,336 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการดูแลราคา LPG ตลอดปี2568