ผู้ชมทั้งหมด 58
“กรมราง” จับมือ JICA ขับเคลื่อน M-MAP2 เชิ่อมโครงข่ายรถไฟครอบคลุมกรุงเทพ-ปริมณฑล ดึงโมเดล TOD ญี่ปุ่น สร้างมูลค่าพื้นที่รอบสถานี
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ นายโอตากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกับ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานร่วมเปิดการสัมมนา ในหัวข้อ “Driving Railway Network and Urban Growth with The Second Mass Rapid Transit Master Plan in Bangkok Metropolitan Region (M-MAP2)” โดยมี นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และนายซาคุโดะ ชุนสุเกะ หัวหน้าผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น สำนักงาน JICA ประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งเป็นผู้แทนจากฝั่งญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่ขร. เข้าร่วม
นายอธิภู กล่าวว่า ไทยได้รับความร่วมมือจากจากประเทศญี่ปุ่น โดยองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JICA มาอย่างยาวนาน และต่อเนื่อง ตั้งแต่มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ทั้งสายสีน้ำเงิน ที่เชื่อมโยงเขตกรุงเทพ รถไฟฟ้าสายสีแดงที่จะเชื่อมไปยังจังหวัดใกล้เคียง ทั้งอยุธยา นครปฐม และฉะเชิงเทรา และสายอื่นๆ
ส่วน M-MAP2 ก็ได้รับความร่วมมือทางวิชาการจากญี่ปุ่นมาร่วมพัฒนาโมเดลรถไฟ รวมถึงวางแผนจัดลำดับความสำคัญรถไฟฟ้าในการลงทุนและการพัฒนาที่ดินรอบสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์และความสำเร็จของประเทศญี่ปุ่นในการพัฒนาระบบรถไฟในเมืองและการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณโดยรอบสถานี (Transit-Oriented Development – TOD) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะช่วยดึงคนมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น
โดยเบื้องต้นจะร่วมมือกับญี่ปุ่นวางแผนที่จะพัฒนาพื้นที่รอบสถานีสายสีแดง โดยจะนำร่องที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ขณะเดียวได้มีการเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการขยายตัวของรถไฟฟ้า โดยการอบรมคนขับรถไฟ การซ่อมบำรุงและการวางแผนพัฒนาในระยะถัดไป นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากญี่ปุ่นในการดูด้านวิชาการ เกี่ยวกับแผ่นดินไหวในประเทศไทย เพื่อวรองรเบสถานการณ์ในอนาคต รวมถึงคำแนะนำเรื่องการขนส่งสีเขียวด้วย
นายซาคุโดะ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นมีส่วนช่วยผลักดัน M-MAP2 จนขณะนี้ได้ถูกจัดทำขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว จึงจัดงานสัมมนาดังกล่าวขึ้น เพื่อนำเสนอและหารือเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และรองรับการเติบโตของเมืองอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยคาดหวังว่าทั้งไทยและญี่ปุ่นจะได้รับประโยชน์จากการสัมมนาและนำไปพัฒนาต่อยอดด้านการสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในไทยต่อไป
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปไทยกับญี่ปุ่นจะมีความร่วมมือในการพัฒนาสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ และส่วนต่อขยาย โดยรูปแบบที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการพัฒนาเมืองและระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าควบคู่กันไปเสมอ โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่โดยรอบหน้าสถานีรถไฟฟ้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
