ผู้ชมทั้งหมด 71
“มนพร” ดัน สบพ.-การบินไทย ผนึกกำลังผลิตบุคลากรการบิน เสริมศักยภาพอุตสาหกรรม มุ่งสู่ Aviation Hub of ASEAN

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ณ สถาบันการบินพลเรือน กรุงเทพฯ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวตอนหนึ่งในพิธีปฐมนิเทศนักบิน หลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรี-เครื่องบิน รุ่นที่ 126 ว่า การเปิดหลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรี – เครื่องบิน รุ่นที่ 126 ในครั้งนี้ ถือเป็นกลไกสำคัญในการเตรียมกำลังพลของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับการขยายฝูงบินในช่วง 5–10 ปีข้างหน้า โดยได้จัดส่งนักบินฝึกหัดเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรดังกล่าวกับ สบพ. ในปีงบประมาณ 2568 จำนวน 2 รุ่นๆละ 28 คน รวม 56 คน โดยรุ่นที่ 1 คือ รุ่น AP 126 และรุ่นที่ 2 กำหนดเปิดหลักสูตร ในวันที่ 8 กันยายน 2568 รวมทั้งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดรับนักบินฝึกหัด ซึ่งมีแผนส่งฝึกอบรมในปี 2569 ต่อไป
สำหรับศิษย์การบิน AP 126 จะเข้ารับการฝึกอบรม ณ ศูนย์ฝึกการบิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน 2568 – 11 กันยายน 2569 รวมระยะเวลา 70 สัปดาห์ ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น โดยครูการบินผู้เชี่ยวชาญจาก สบพ. เพื่อร่วมกันผลิตนักบินที่มีคุณภาพ รองรับการขยายฝูงบินและเส้นทางการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอุตสาหกรรมการบินที่กำลังฟื้นตัว


สบพ. เป็นหน่วยงานหลักที่ผลิตบุคลากรด้านการบินในระดับภูมิภาค มาแล้วกว่า 64 ปี และกำลังก้าวสู่ปีที่ 65 ภายใต้มาตรฐานการฝึกอบรมระดับโลก และได้รับการรับรองจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ในระดับ Platinum ในโครงการ Trainair PLUS ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นับเป็น 1 ใน 5 ของเอเชีย และเป็น 1 ใน 12 จากประเทศสมาชิกทั่วโลก ฝึกอบรมทั้งหลักสูตรภาคพื้นและภาคอากาศ รวมทั้งให้บริการช่างอากาศ บริการอากาศยาน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงเชื่อมั่นว่า สบพ. มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ มีศูนย์ฝึกบินและเครื่องบินที่ทันสมัย รวมถึงระบบสนับสนุนการเรียนรู้อย่างครบวงจร เหมาะสมต่อการผลิตนักบินในรุ่นต่อ ๆ ไป
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายผลักดันให้ สบพ. เป็นศูนย์กลางการพัฒนาบุคลากรการบินของประเทศ โดยสนับสนุนงบประมาณเพื่อยกระดับศูนย์ฝึกการบิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งในด้านอาคาร อุปกรณ์ และหลักสูตรฝึกอบรม โดยโครงการงานก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกการบินหัวหินและสิ่งก่อสร้างประกอบพร้อมครุภัณฑ์ ระยะที่ 1 มูลค่า 414.4 ล้านบาท คาดการณ์จะเริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคม 2568 และแล้วเสร็จภายในปี 2570 และระยะที่ 2 วงเงิน 130.8 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นอาคารเรียนและฝึกอบรมที่มีความทันสมัย พร้อมรองรับการผลิตและพัฒนานักบินที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพียงพอต่อความต้องการของสายการบินในอนาคต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานในอุตสาหกรรมการบินและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันสนับสนุน สบพ.
ด้านนางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย ผู้ว่าการ สบพ. ระบุว่า หลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรี – เครื่องบิน ของ สบพ. ได้รับการรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ครอบคลุมการฝึกบินในอากาศยานทั้งแบบเครื่องยนต์เดียวและหลายเครื่องยนต์ การเตรียมความพร้อมการสอบขอใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี (Commercial Pilot License – CPL) ตามมาตรฐาน ICAO ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่นักบินได้อย่างมืออาชีพ ในอุตสาหกรรม
การบินที่มีความซับซ้อนและท้าทาย จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของ สบพ. ที่ได้รับความไว้วางใจและการสนับสนุนจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติ ซึ่งนอกจากเป็นการพัฒนาขีดความสามารถนักบินในสังกัดแล้ว ยังสะท้อนศักยภาพและความพร้อมของ สบพ. ในการเป็นกำลังหลักพัฒนาอุตสาหกรรมการบินไทย สู่การเป็น Aviation Hub of ASEAN ซึ่งเป็นเป้าหมายระดับชาติ ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย
โดยศิษย์การบิน AP-126ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจคัดเลือกตามเกณฑ์มาตรฐานทางการแพทย์ ชั้น 1 (Class 1 Medical Assessment) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ที่จะศึกษาอบรม ซึ่งเน้นทั้งด้านทฤษฎีการบิน การนำร่อง และกฎระเบียบการบิน รวมถึงการปลูกฝังวินัย ความรับผิดชอบ การตัดสินใจภายใต้ความกดดัน รวมถึงการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม อันเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับอาชีพนักบิน เพื่อให้ศิษย์ทุกคนพร้อมปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ