ผู้ชมทั้งหมด 295
ครม.เห็นชอบแก้กฎหมายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ใช้เงินสะสม 1.6 หมื่นล้านชดเชยรายได้ที่หายไปจากนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ยืนยันมีผลบังคับใช้ทันเดือนก.ย. 68 แน่นอน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 19 พ..ค. มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่….) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยมีสาระสำคัญ คือการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และสามารถส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามนโยบายรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งหลักเกณฑ์การบริหารจัดการรายได้ และการดำเนินกิจการที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อลดปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน และให้ รฟม. สามารถดำเนินการเกี่ยวกับกิจการรถไฟฟ้าได้อย่างครบถ้วนและครอบคลุมภารกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสามารถจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สิน และดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลได้ โดยเฉพาะการรองรับนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล ซึ่งหลังจากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ และน่าจะมีผลบังคับใช้ก่อนเดือนก.ย.นี้ที่จะเริ่มใช้นโยบายรถไฟฟ้า20 บาทตลอดสายของรถไฟฟ้าทุกสี
นายสุริยะ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว จะทำให้ รฟม.นำเงินกำไรสะสมที่ได้จากส่วนแบ่งรายได้ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่มีอยู่ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ส่งให้กระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ก่อนนำมาจัดสรรเป็นงบประมาณ รวมถึงจัดสรรสำหรับใช้ชดเชยส่วนต่างรายได้ที่หายไปของรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ เป็นเวลา 2 ปีๆละประมาณ 8,000 ล้านบาท ด้วย
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันต้องมีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. ตั๋วร่วม เพื่อให้กองทุนภายใต้ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม สามารถกู้ยืมได้ จากเดิมที่มีข้อกำหนดว่าสามารถรับบริจาคได้เท่านั้น และยืนยันว่าการกู้ยืมเงินนี้จะไม่ถูกบันทึกในระบบบัญชีของ รฟม.ว่าเป็นหนี้ นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมจะเร่งผลักดันนโยบายการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด หรือ Congestion Charge เพื่อนำเงินรายได้มาใช้สำหรับซื้อคืนรถไฟฟ้า และเมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่ต้องใช้เงินงบประมาณที่เป็นรายได้สะสมของ รฟม.ชดเชยส่วนต่างรายได้ของรถไฟฟ้าที่หายไปอีกแล้ว