ทล.ลงนามข้อตกลงคุณธรรม มอเตอร์เวย์ M5 – M9 วงเงินกว่า 87,000 ล้านบาท ประมูลปี 69

ผู้ชมทั้งหมด 376 

ทล.ลงนามข้อตกลงคุณธรรม โครงการมอเตอร์เวย์ M5 – M9 มุ่งโปร่งใสทุกขั้นตอนเปิดเอกชนร่วมลงทุนรูปแบบ PPP วงเงินกว่า 87,000 ล้านบาท เร่งประมูลปี 69 คาดสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ได้ลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 5 (M5) ช่วงรังสิต – บางปะอิน และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 (M9) ช่วงบางขุนเทียน – บางบัวทอง ร่วมกับผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรมจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT โดยมีผู้บริหารจากกรมทางหลวง, ACT และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อแสดงเจตจำนงในการดำเนินโครงการอย่างสุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน

การลงนามข้อตกลงคุณธรรมในครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สังเกตการณ์จากภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ไปจนถึงการลงนามในสัญญา เพื่อให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล

โครงการทั้งสองมีวงเงินลงทุนรวมกว่า 87,393 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการ M5 (ช่วงรังสิต – บางปะอิน) วงเงินลงทุนประมาณ 31,358 ล้านบาท ดำเนินการในรูปแบบ PPP Gross Cost เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง ดำเนินงาน และบำรุงรักษาโครงการ รัฐเป็นเจ้าของรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมด และจ่ายค่าตอบแทนให้เอกชนตามผลการดำเนินงาน (Performance-Based Payment) โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการไม่เกิน 34 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การออกแบบและก่อสร้าง (ไม่เกิน 4 ปี) ระยะที่ 2 การดำเนินงานและบำรุงรักษา (30 ปี)

โครงการ M9 (ช่วงบางขุนเทียน – บางบัวทอง) วงเงินลงทุนประมาณ 56,035 ล้านบาท ดำเนินการในรูปแบบ PPP Net Cost โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง ดำเนินงาน และบำรุงรักษา พร้อมมีสิทธิในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ขณะที่รัฐยังคงถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เอกชนลงทุน ระยะเวลาดำเนินโครงการรวม 34 ปี แบ่งเป็น ระยะที่ 1 การออกแบบและก่อสร้าง (4 ปี) ระยะที่ 2 การดำเนินงานและบำรุงรักษา (30 ปี) อย่างไรก็ตามปัจจุบันทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) เพื่อเสนอคณะกรรมการคัดเลือกของทั้ง 2 โครงการพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยคาดจะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนผู้สนใจร่วมได้ในปี 2569

ทั้งนี้จากการประเมินผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจพบว่า โครงการ M5 คาดว่าจะสร้างมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ประมาณ 7,928 ล้านบาท และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 120,000 ล้านบาท โครงการ M9 คาดว่าจะสร้างมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ประมาณ 18,069 ล้านบาท และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 200,000 ล้านบาท รวมแล้วทั้งสองโครงการคาดว่าจะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท

กรมทางหลวงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองให้มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมดำเนินการอย่างสุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การจ้างงาน การลงทุน และการยกระดับระบบโลจิสติกส์ของไทยสู่ความยั่งยืนในระยะยาว