ทล.เร่งใช้งบปี 69 กว่า 1.3 แสนล้าน ลั่นช่วง 4 เดือน ประมูลจุดพักรถงาน O&M M6 M81 M82 

Loading

ปิยพงษ์” อธิบดี ทล.คนใหม่เร่งใช้งบปี 69 กว่า 1.3 แสนล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลุยทยอยประมูล 4 สัญญาภายใน 4 เดือน งาน O&M มอเตอร์เวย์ M82 จุดพักรถริมทางบนมอเตอร์เวย์ M6 และ M81 กรอบวงเงินรวม 21,349 ล้าน พร้อมประมูล M9 M5 ปี 69 กรอบวงเงินลงทุนรวม 87,393 ล้าน

นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ทล. ได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2569 จำนวน 131,932.28 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการขนาดเล็กและโครงการก่อสร้างปีเดียวราว 4,000 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 50,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยเริ่มในกระบวนการประกวดราคาได้เดือนพฤศจิกายน 2568 และน่าจะลงนามสัญญาได้ภายในไตรมาสแรกของปีงบ 2569 หรือช่วงเดือนธันวาคม 2569 ส่วนที่เหลือเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เป็นงบผูกพันจำนวน 99 โครงการ ก็จะทยอยดำเนินการประกวดราคาหาผู้รับจ้างต่อไป

โดยโครงการขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะสามารถเริ่มประกวดราคาได้ภายในช่วง 4 เดือนมี 4 สัญญา ประกอบด้วย การเปิดประมูลคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (PPP) งานติดตั้งระบบและ O&M ของทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 (มอเตอร์เวย์ M82) สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว จำนวน 1 สัญญา กรอบวงเงินลงทุน 15,724 ล้านบาท

การลงทุนพัฒนา Rest Area บนมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา จำนวน 2 สัญญา โดยสัญญาที่ 1 มี 8 แห่ง และสัญญาที่ 2 มี 7 แห่ง กรอบวงเงินลงทุนรวม 3,270 ล้านบาท และการลงทุนพัฒนา Rest Area มอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จำนวน 1 สัญญา กรอบวงเงินลงทุนรวม 2,355 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเข้าสู้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) PPP เร็วๆนี้ เมื่อแล้วเสร็จก็จะเริ่มกระบวนการประกาศเชิญชวนเอกชนได้ทันที

ส่วนโครงการลงทุนพัฒนามอเตอร์เวย์ที่คาดว่าจะสามารถประกวดราคาได้ในปี 2569 ประกอบด้วย โครงการมอเตอร์เวย์ M9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ทางยกระดับบางขุนเทียน – บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กิโลเมตร กรอบวงเงินลงทุน 56,035 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลไปยังภูมิภาค โดยดำเนินการในรูปแบบ PPP Net Cost เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง ดำเนินงาน และบำรุงรักษา พร้อมมีสิทธิในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ขณะที่รัฐยังคงถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เอกชนลงทุน ระยะเวลาดำเนินโครงการรวม 34 ปี แบ่งเป็น ระยะที่ 1 การออกแบบและก่อสร้าง (4 ปี) ระยะที่ 2 การดำเนินงานและบำรุงรักษา (30 ปี) 

มอเตอร์เวย์ M5 ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน ระยะทาง 22 กิโลเมตร กรอบวงเงินลงทุนประมาณ 31,358 ล้านบาท ดำเนินการในรูปแบบ PPP Gross Cost เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง ดำเนินงาน และบำรุงรักษาโครงการ รัฐเป็นเจ้าของรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมด และจ่ายค่าตอบแทนให้เอกชนตามผลการดำเนินงาน (Performance-Based Payment) โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการไม่เกิน 34 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การออกแบบและก่อสร้าง (ไม่เกิน 4 ปี) ระยะที่ 2 การดำเนินงานและบำรุงรักษา (30 ปี) อย่างไรก็ตามทั้ง 2 โครงการ M9 และ M5 จะมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนในช่วงปลายเดือนตุลาคม หรือประมาณต้นเดือน พฤศจิกายน 2568 ก่อนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ส่วนอีกโครงการที่สำคัญที่ ทล.มีแผนจะขับเคลื่อน คือ โครงการมอเตอร์เวย์สายใหม่ M8 เฟสที่1 เส้นทางนครปฐม – ปากท่อ ซึ่งประชาชนยังเผ้ารอมากที่สุด เพราะจะเป็นทางลัดสู่ภาคใต้ได้อย่างสะดวก สามารถช่วยแบ่งบาการจราจรบนถนนพระราม 2 ได้อย่างดี โดยปัจจุบันทล.ได้นำเสนอโครงการไปยังกรทรวงคมนาคมแล้ว อยู่ระหว่างการนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) สภาพัฒน์ 

สำหรับแผนการก่อสร้างนั้น จะมีระยะทาง 11 กิโลเมตร กรอบวงเงินลงทุนรวม 54,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธาจำนวน 40,000 ล้านบาท และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินอีก 14,000 ล้านบาท  ส่วนงานติดตั้งระบบและ O&M จะใช้เชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP เบื้องต้น ทล.มีแผนที่จะใช้แหล่งเงินงบประมาณปีงบฯ  2570 ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะได้รับอนุมัติ เนื่องจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ใกล้เสร็จหมดแล้ว แต่หากมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณทล.ได้เตรียมแผนสำรองคือ ของบประมาณปี 2570 จำนวน 30,000 ล้านบาท และใช้เงินกองทุนมอเตอร์เวย์มาสมทบอีก 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้หากรัฐช่วยขับเคลื่อนก็จะสำเร็จได้

เร่งก่อสร้างมอเตอร์เวย์ M82 เปิดช่วงแรกตุลาคมนี้

นายปิยพงษ์ กล่าวว่า นอกจากเร่งดำเนินการประกวดราคาโครงการใหญ่แล้วทล. ยังได้เร่งรัดโครงการก่อสร้างต่างๆ ให้แล้วเสร็จตามแผน ได้แก่ โครงการ มอเตอร์เวย์ M81 สาย บางใหญ่-กาฐจนบุรี ซึ่งขณะนี้งานก่อสร้างใกล้เสร็จแล้วเหลือเก็บความเรียบร้อย คาดว่าภายในเดือนตุลาคม 2568 จะขยายวันและเวลาทดลองให้บริการแบบไม่มีค่าใช้จ่ายจากเวลา 15.00 น.วันศุกร์-เวลา 9.00 น.วันจันทร์ เพิ่มขึ้นอีกและจะมีประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง จากนั้นจะเร่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือนมกราคม 2569 ซึ่งการเปิดบริการเต็มรูปแบบคือการเก็บค่าผ่านทาง การให้รถที่ใช้บริการวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม.ต่อชั่วโมง (จากปัจจุบันที่ทดลองใช้ให้วิ่งด้วยความเร็ว 80 กม.ต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัย) และเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงทุกวัน

ขณะที่โครงการมอเตอร์เวย์ M6 วางเป้าหมายเปิดให้บริการตามกำหนด เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากโครงการได้เร็วที่สุดในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ จะเปิดให้บริการยาวตลอดเส้นทางจากบางปะอิน-นรคราชสีมา 1 ทิศทาง ซึ่งบางช่วงอาจมีวิ่งซ้ายสลับขวาบ้าง และจะจัดบริการห้องน้ำชั่วคราไว้รองรับการเดินทางของประชาชนด้วย ส่วนการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบน่าจะประมาณปลายปี 2569

ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์ M82 นั้น มีแผนที่จะเปิดให้บริการ 2 ช่วง คือ ระยะที่ 1 ทางต่างระดับบางขุนเทียน–เอกชัย เป็นระยะทาง 8.3 กิโลเมตรภายในเดือนตุลาคม 2568 และ ระยะที่ 2 ช่วงเอกชัย ไปถึงบ้านแพ้ว ระยะทางรวม 16.3 กิโลเมตรจะเร่งการเปิดใช้บริการให้ทันก่อนเทศกาลสงกรานต์ ปี 2569

นายปิยพงษ์  กล่าวด้วยว่า ทล.จะเร่งอัพเกรดระบบ M-Flow ให้ใช้งานง่ายขึ้น เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ และเพิ่มความคล่องตัวจราจรบริเวณ ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง รวมถึงการยกระดับความปลอดภัยงานก่อสร้าง วิเคราะห์-ป้องกัน-ควบคุมความเสี่ยงในงานก่อสร้างอย่างเป็นระบบ ด้วย JSA (Job Safety Analysis) พร้อมติดตามและตรวจสอบให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชน

ขณะเดียวกันจะยกระดับความปลอดภัยบนทางหลวง ใส่ใจคนทุกกลุ่ม โดยปรับปรุงทางข้ามและทางเดินบริเวณทางแยกในเขตเมืองที่เป็นมิตรกับคนเดินเท้า และจัดทำช่องทางรถจักรยานยนต์บนสะพานที่เป็นพื้นที่จุดเสี่ยง,ดำเนินการขันน็อตงานบำรุงทางและสะพานที่เป็นพื้นฐาน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ถนนจะไม่มีหลุมบ่อ มีการขีดเส้นที่ชัด ป้ายไม่ถูกบัง ป้ายไม่ขัดแย้ง อุปกรณ์ไม่ชำรุด ไฟติด หญ้าไม่รก ดูแลสองข้างทางให้สะอาดเรียบร้อย

ตลอดจนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมอย่างทันท่วงที บูรณาการร่วมในการอำนวยความสะดวกการจราจร และเร่งฟื้นฟูเส้นทางหลังน้ำท่วม เพื่อประชาชนมีความปลอดภัยและลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และเสริมทักษะบุคลากรให้มีสมรรถนะสอดคล้องกับหน้าที่ พัฒนาและปรับเกลี่ยกำลังคน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง