ผู้ชมทั้งหมด 143
“นกแอร์” ครบรอบ 21 ปี ตอกย้ำความแข็งแกร่ง ชูหมัดเด็ด 2 บริการใหม่ Nok IFE ระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน Nok Deal เปิดโอกาส OTOP ขายบนเครื่องเริ่ม ส.ค.นี้ และ Nok Deal แพลตฟอร์มสิทธิประโยชน์สำหรับผู้โดยสาร เล็งสร้างแต้มต่อแบรนด์ในยุคดิจิทัล

ในโอกาสครบรอบ 21 ปีของการดำเนินธุรกิจสายการบิน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “นกแอร์” ได้ตอกย้ำจุดยืนความเป็น “สายการบินของคนไทย” ด้วยผลงานที่เติบโตทั้งในแง่การฟื้นตัวหลังวิกฤต ความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ และการขยายบริการใหม่ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลของผู้บริโภค พร้อมกางแผนยุทธศาสตร์เดินหน้าสู่การทำกำไรสุทธิอย่างยั่งยืนในอีก 3 ปีข้างหน้า จากสายการบินที่เริ่มต้นจากความมุ่งมั่นในการเชื่อมต่อเมืองไทยให้เข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น วันนี้ “นกแอร์” ได้ยืนหยัดอยู่ในตลาดสายการบินที่มีการแข่งขันสูง ขนส่งผู้โดยสารไปแล้ว 70 ล้านคน พร้อมทำกำไรติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ในปี พ.ศ. 2566 และ พ.ศ. 2567 หลังจากขาดทุนต่อเนื่องยาวนานกว่า 9 ปี
นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอด 21 ปีที่ผ่านมานกแอร์ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการขนส่งผู้โดยสารจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง แต่นกแอร์ตั้งใจที่จะเป็นสายการบินที่เข้าใจและเข้าถึงความต้องการของผู้โดยสารชาวไทยอย่างแท้จริง ไม่เคยหยุดพัฒนา แม้ต้องเผชิญกับวิกฤตมากมาย ตั้งแต่ราคาน้ำมัน ปัญหาเศรษฐกิจผันผวน ไปจนถึงสถานการณ์โควิด-19 แต่ทุกวิกฤตคือโอกาสให้นกแอร์ลุกขึ้นมา สร้างความแข็งแกร่งและฟื้นกลับมาด้วยประสิทธิภาพที่มากขึ้น นกแอร์เชื่อมั่นว่าการเติบโตที่ยั่งยืนเกิดจากความเข้าใจในผู้โดยสาร และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
โดยวาระครบรอบ 21 ปีครั้งนี้ “นกแอร์” ได้เปิดตัว 2 บริการใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับทุกการเดินทาง ได้แก่ Nok Air Inflight Entertainment (IFE) บริการด้านความบันเทิงบนเครื่องบินที่ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาสาระและความบันเทิงระหว่างการเดินทางได้ผ่านอุปกรณ์สื่อสารส่วนตัวของตนเอง จากการจับมือกับพาร์ทเนอร์แพลตฟอร์มดูซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Viu (วิว) และผู้ให้บริการคอนเทนต์อื่นๆ รวมถึงเนื้อหาจากสายการบินนกแอร์เอง


นอกจากนี้ยังเปิดตัวบริการ Nok Deal แพลตฟอร์มสิทธิพิเศษใหม่สำหรับสมาชิก Nok Fan Club เพื่อสร้าง Brand Loyalty ด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการพิเศษ, ส่วนลดบัตรโดยสารจากนกแอร์, สิทธิประโยชน์จากพันธมิตรทั่วประเทศ, บัตรคอนเสิร์ต และอีกมากมาย ที่ผู้โดยสารสามารถแลกผ่าน Nok Deal ได้โดยตรง พร้อมกันนี้นกแอร์ยังเดินหน้าสร้างการจดจำแบรนด์ด้วยความเป็นมิตร ความใกล้ชิด และการใส่ใจในทุกความต้องการของผู้โดยสาร ด้วยภาพลักษณ์ “เพื่อนร่วมทางของคนไทย” ผ่านกิจกรรม CSR ท้องถิ่น โดยจะเปิดโอกาสให้กลุ่มสินค้า OTOP จากทุกจังหวัดมาขายบนเครื่องของนกแอร์ สั่งล่วงหน้าก่อนก็ได้หรือจะสั่งบนเครื่องแล้วรับปลายทาง รวมถึงสินค้าแบรนด์เนมก็จะสามารถมาขายบนแพลตฟอร์มของ Nok Deal เริ่มเดือนสิงหาคมนี้
ในอนาคตนกแอร์ยังเตรียมขยายฝูงบินด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 737-800 พร้อมพิจารณาจัดหาเครื่องบินรุ่นใหม่เพื่อเสริมศักยภาพฝูงบิน ขณะเดียวกันยังยกระดับช่องทางดิจิทัล ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการจองตั๋ว รวมถึงช่องทางการขายแบบออฟไลน์ที่ตอบรับกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศซึ่งยังคงมีสัดส่วนสูง
และในอีก 3 ปีข้างหน้านกแอร์ตั้งเป้ากลับสู่การสร้างกำไรสุทธิอย่างยั่งยืน รวมถึงขยายเส้นทางการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้ได้มาตรฐานระดับโลก โดยมีเป้าหมาย On-Time Performance (OTP) เทียบเท่าสายการบินชั้นนำ
ปัจจุบันนกแอร์ให้บริการมากกว่า 100 เที่ยวบินต่อวัน ครอบคลุมกว่า 15 เส้นทางบินภายในประเทศ และเตรียมกลับมาเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศสู่ประเทศจีน, อินเดีย, เวียดนาม และเส้นทางใหม่ อาทิ บาหลี และมะนิลา ในช่วงเดือนตุลาคม (Winter Schedule) เป็นต้นไป