“บขส.” X “ไปรษณีย์ไทย” ส่งพัสดุทั่วไทยถึงบ้านใน 1 วัน เร็วที่สุดในประเทศ นำร่องให้บริการ 14 แห่ง พร้อมเปิดจุดบริการ “EMS Point” 10 แห่ง เพิ่มความสะดวกให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมกันพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนในการทำงานร่วมกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนในการฝากส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ โดยมีคณะผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงานเข้าร่วมฯ
นายอรรถวิท กล่าวว่า บขส. ได้ดำเนินแผนพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการรับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และพัสดุถึงปลายทางอย่างปลอดภัย ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อร่วมกันพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนในการทำงานร่วมกัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนในการฝากส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์

สำหรับโครงการ “บขส. X ไปรษณีย์ไทย ส่งพัสดุถึงบ้าน 1 วัน” ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในการให้บริการขนส่งพัสดุภัณฑ์ที่รวดเร็วที่สุดในประเทศไทย โดย บขส. ได้นำร่องให้บริการ ณ ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ 1.ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ (จตุจักร) 2.ศูนย์ฯ เชียงราย 3.ศูนย์ฯ เชียงใหม่ 4.ศูนย์ฯ นครสวรรค์ 5.ศูนย์ฯ หนองคาย 6.ศูนย์ฯ นครพนม 7.ศูนย์ฯ มุกดาหาร 8.ศูนย์ฯ สกลนคร 9.ศูนย์ฯ นครราชสีมา 10.ศูนย์ฯ หาดใหญ่ 11.ศูนย์ฯ ภูเก็ต 12.ศูนย์ฯ เพชรบุรี 13.ศูนย์ฯ สุราษฎร์ธานี 14.ศูนย์ฯ ปัตตานี และจะขยายจุดให้บริการในพื้นที่อื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้ บขส. ยังได้เปิดจุดบริการรับฝากพัสดุภัณฑ์ EMS Point จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ 1.สถานีเดินรถพิจิตร 2.สถานีเดินรถฉะเชิงเทรา 3.จุดจอดพัทยา 4.สถานีเดินรถอรัญประเทศ 5.จุดจอดสระแก้ว 6.จุดจอดปราจีนบุรี 7.จุดจอดนครนายก 8.สถานีเดินรถสุพรรณบุรี 9.สถานีเดินรถนครปฐม และ 10.จุดจอดราชบุรี ซึ่ง บขส. จะทำหน้าที่รับฝากรวบรวมพัสดุภัณฑ์ ส่วนไปรษณีย์ไทย จะเป็นผู้รับมอบ พัสดุและนำจ่ายให้กับลูกค้าต่อไป
การผนึกกำลังกับไปรษณีย์ไทยถือเป็นการต่อยอดศักยภาพในการให้บริการขนส่งรับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ ให้ครอบคลุมที่เชื่อมโยงทุกภูมิภาคเข้าด้วยกันผ่านจุดศูนย์กลางสำคัญ เช่น สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2, เอกมัย และสายใต้ใหม่ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักของประเทศ ในการขนส่งผู้โดยสารและพัสดุในเส้นทางระยะไกล โดย บขส. จะทำหน้าที่เป็นโครงข่ายขนส่งระยะกลาง (Middle-Mile Transporter) เพื่อเชื่อมต่อพัสดุจากต้นทางของผู้ฝากในภูมิภาคต่าง ๆ เข้าสู่ระบบของไปรษณีย์ไทยอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานเดียวกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 โทร. 02 – 537 – 8480

ด้าน ดร.ดนันท์ กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย และ บขส. ได้ผสานความร่วมมือนำศักยภาพทั้งเครือข่ายที่ครอบคลุม ความชำนาญด้านเส้นทาง และยานพาหนะ ที่สามารถรองรับการขนส่งได้ทั่วประเทศ มาพัฒนาบริการนำจ่ายสิ่งของถึงผู้รับปลายทางในประเทศแบบ Hub to Door เป็นการต่อยอดมาจากการดำเนินงานร่วมกันในรูปแบบ Hub to Hub โดยเป็นการนำพัสดุภัณฑ์ ที่ฝากส่งและขนส่งโดย บขส. ไปสู่บริการนำจ่ายสิ่งของถึงผู้รับปลายทางโดยไปรษณีย์ไทยแบบ Hub to Door
บริการนำจ่ายสิ่งของถึงผู้รับปลายทางในประเทศแบบ Hub to Door จะเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถเชื่อมต่อสินค้าและพัสดุจากสถานีขนส่งของ บขส. เข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ และพร้อมนำส่งสิ่งของถึงมือผู้รับได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการพร้อมทั้งยกระดับเครือข่ายโลจิสติกส์ของภาครัฐ ให้มีความเชื่อมโยงต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ไปรษณีย์ไทยยังเปิดจุดให้บริการเพื่อนพี่ไปรฯ EMS Point รับฝากสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ ณ สถานีเดินรถประจำจังหวัด/อำเภอของ บขส. จำนวน 10 แห่ง ถือเป็นอีกก้าวของการบูรณาการระบบโลจิสติกส์ภาครัฐ ที่สร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการ ขับเคลื่อนประเทศ ผ่านระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด