ผู้ชมทั้งหมด 512
พพ. เปิดรับฟังความเห็น “ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ….” ถึง 30 พ.ค. นี้ หวังอำนวยความสะดวก ลดความซ้ำซ้อนยื่นขออนุญาต เอื้อประชาชนและผู้ประกอบการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในที่อยู่อาศัยและสถานประกอบกิจการ ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้า หนุนใช้พลังงานสะอาด
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดรับฟังความเห็น “ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ….” ถึงวันที่ 30 พ.ค. 2568 ทางเว็บไซต์ของระบบกลางทางกฎหมาย เพื่อนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงร่างกฎหมายให้มีความเหมาะสมและครอบคลุมทุกมิติ
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัตินี้ ครอบคลุมตั้งแต่การแจ้งการติดตั้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, การวางหลักเกณฑ์สำหรับการจำหน่ายไฟฟ้าส่วนเกิน, การจัดการซากอุปกรณ์อย่างถูกวิธีเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, การกำหนดอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบกำกับดูแล และการกำหนดบทลงโทษเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อมุ่งให้เกิดการลดภาระค่าไฟฟ้า สนับสนุนการเข้าถึงพลังงานสะอาด และเสริมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงานของประเทศ
อีกทั้ง ร่างพระราชบัญญัตินี้กำหนดให้มีระบบการอนุญาตในบางกรณีที่จำเป็น การกำหนดโทษอาญา และการวางหลักเกณฑ์การใช้อำนาจและดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้การส่งเสริมและการกำกับดูแลการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และบรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมาย
ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. …. มีหลักการสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบกิจการของตนเองได้โดยง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการลดขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบที่ไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม การเปิดรับฟังความเห็นฯ ครั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นการเฉพาะสำหรับการสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ประกอบกิจการสามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในที่อยู่อาศัยหรือในสถานประกอบกิจการ ทำให้ต้องยื่นขออนุญาตต่อหน่วยงานของรัฐซ้ำซ้อนกันหลายแห่งทำให้เกิดความล่าช้า และสร้างภาระต่อประชาชนและผู้ประกอบการ
ฉะนั้น ควรกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าและสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบกิจการ รวมทั้งช่วยสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานสะอาดที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้