ผู้ชมทั้งหมด 215
กระทรวงพลังงาน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครับผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมตั้งศูนย์ป้องกันเหตุฉุกเฉิน ติดตามความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ให้กระทบความมั่นคงด้านพลังงาน
กระทรวงพลังงาน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ความไม่สงบบริเวณชายแดน ไทย – กัมพูชา พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังและวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงาน กำชับให้สนับสนุนการทำงานของโรงพยาบาล และการช่วยอพยพคนให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนมากที่สุด
วันนี้ (24 กรกฎาคม 2568) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สั่งการเร่งด่วนให้ กระทรวงพลังงาน ตั้งศูนย์ป้องกันเหตุฉุกเฉิน โดยมีนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและวางแนวทางการป้องกันสถานที่ด้านพลังงานที่สำคัญ เช่น คลังน้ำมัน สถานีบริการน้ำมัน ระบบส่งไฟฟ้า ขอให้ทุกหน่วยงานทั้งในส่วนกลาง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และจังหวัดในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด ประกอบด้วย ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการพิจารณาเปิดปิดสถานีบริการน้ำมันให้คำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงานและกระทบประชาชนให้น้อยที่สุด และเตรียมแผนและมาตรการต่างๆ หากเกิดเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น

“ก่อนอื่น ผมต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุการณ์ ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานตั้งศูนย์ป้องกันเหตุฉุกเฉิน ซึ่งผมได้เรียกประชุมด่วน โดยมีผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ชายแดนที่เกิดเหตุเข้าร่วมการประชุม ซึ่งผมได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และวางแนวทางและมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน เช่น คลังน้ำมัน สถานีบริการน้ำมัน ระบบส่งไฟฟ้า จะต้องมีแผนการรรับมือหากสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น และขอให้รายงานให้ส่วนกลางทราบเป็นรายวัน หรือทันทีที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น นอกจากนี้ ผมยังได้สั่งการให้พลังงานจังหวัดในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีการปิดสถานีบริการน้ำมันชั่วคราว ให้พิจารณาการเปิดปิดให้คำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงาน และกระทบประชาชนให้น้อยที่สุด รวมทั้งให้มีการสื่อสารให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ นอกจากนั้น ขอให้อำนวยความสะดวกส่วนราชการ โดยเฉพาะโรงพยาบาล สถานีตำรวจ หรือการอพยพคน ที่จำเป็นต้องมีการใช้น้ำมันและไฟฟ้า ให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและเกิดความปลอดภัยกับประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด” นายประเสริฐ กล่าว