“พลังงาน” หวัง สถานะกองทุนน้ำมันฯช่วงปลายปี พลิกเป็นบวก

ผู้ชมทั้งหมด 111 

“พลังงาน” คาด สถานะกองทุนน้ำมันฯโดยรวมจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ช่วงปลายปี หลังฉวยจังหวะราคาตลาดโลกลดเร่งรีบเงินเข้ากองทุนฯ ดัน บัญชีน้ำมัน กลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 3 ปี คาดสัปดาห์หน้าเตรียมประกาศรายชื่อ ผอ.สกนช.คนใหม่

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ภาพรวมสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2568 หากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับปัจจุบัน หลังล่าสุด ณ วันที่ 18 พ.ค. 2568 สถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ โดยรวมติดลบอยู่ที่ 44,266 ล้านบาท แต่ในส่วนของ บัญชีน้ำมัน พบว่า อยู่ที่ 773 ล้านบาท ถือว่ากลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่บัญชี LPG ยังติดลบ 45,039 ล้านบาท

โดย กองทุนฯ ยังมีเงินไหลเข้า จากการเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันทุกชนิดส่งเข้ากองทุนฯ รวม 257 ล้านบาทต่อวัน (คิดเป็น 7,957 ล้านบาทต่อเดือน) และมีเงินไหลเข้าจากโรงแยกก๊าซ 21 ล้านบาทต่อวัน (คิดเป็น 657 ล้านบาทต่อเดือน)

“ตามแม้กองทุนฯ จะกลับมาเป็นบวกได้ แต่ยังต้องเร่งใช้หนี้เงินกู้สถาบันการเงิน ที่มียอดเงินกู้รวม 105,333 ล้านบาท โดยปัจจุบันยังเหลือหนี้ที่ต้องใช้คืนอีก 80,000 ล้านบาท”

ทั้งนี้ หลังจากมีกระแสวิจารณ์ถึงกรณีการรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันในอัตราที่สูงนั้น เนื่องจากเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่ยังมีความจำเป็นต้องบริหารจัดการเงินกองทุนฯ โดยมองหลากหลายมติเพื่อรักษาสมดุลทางการเงินและเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศ รวมถึงต้องเร่งใช้คืนหนี้เงินกู้ อย่างไรก็ตาม เมื่อในอนาคตสถานะเงินกองทุนฯดีขึ้น ทางภาคนโยบายก็พร้อมทบทวนลดอัตราการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันแต่ละชนิดลง

ส่วนความคืบหน้า การสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.)คนใหม่นั้น ทางคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เตรียมประกาศรายชื่อผู้ได้รับตำแหน่ง “ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (ผอ.สกนช.)” คนใหม่ ในสัปดาห์หน้า จากผู้สมัคร 2 คนที่ผ่านคุณสมบัติได้เข้ารับการคัดเลือกและแสดงวิสัยทัศน์ไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา คือ  1. พลโท ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธ์ อดีตรองเจ้ากรมการพลังงานทหาร และ 2. นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว อดีตรองปลัดกระทรวงพลังงาน