ผู้ชมทั้งหมด 172
“พลังงาน” เตรียมพิจารณาราคาLPG ระยะยาว หลังมาตรการตรึงราคา 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม จะครบกำหนดสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ หวังบรรเทาภาระกองทุนน้ำมันฯ เหตุบัญชีLPG ติดลบกว่า 4 หมื่นล้านบาท
มาตรการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 423 บาทต่อ กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน มิ.ย. 2568 หลังจากภาครัฐ ได้ดูแลราคา LPG ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2565 และเริ่มตรึงราคาอยู่ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2566 ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องนำเงินไปอุดหนุนราคาจน ทำให้ปัจจุบัน บัญชี LPG ติดลบกว่า 4 หมื่นล้านบาท จากกรอบวงเงินชดเชยราคาที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดไว้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท
ขณะที่ สถานการณ์ราคา LPG โลก เดือน มิ.ย. 2568 ปรับลดลงเหลือประมาณ 585 ดอลลาร์ฯต่อตัน จากเดือน พ.ค. 2568 อยู่ที่ประมาณ 600 ดอลลาร์ฯต่อตัน จากอดีตราคา LPG อยู่ที่ประมาณ 300-400 ดอลลาร์ฯต่อตัน โดยเริ่มปรับฐานราคาขึ้นมาตั้งแต่ปี 2566 และบางปีราคาพุ่งไปถึง 800 ดอลลาร์ฯต่อตัน ซึ่งตามปกติราคาLPG จะปรับขึ้นในช่วงปลายปี ที่เข้าสู่ฤดูหนาวทำให้ทั่วโลกมีความต้องการใช้ LPG สูงขึ้น เพื่อรักษาความอบอุ่นให้ร่างกายส่งผลให้ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาLPG ตลาดโลก ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง แม้จะปรับลดลงบ้าง ขณะที่มาตรการตรึงราคาLPG ของไทย จะสิ้นสุดลงในเดือน มิ.ย.นี้ ดังนั้น กระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างพิจารณามาตรการดูแลราคา LPG ในประเทศระยะยาว เนื่องจาก โดยภายในเดือน มิ.ย. นี้ ทาง กบง. จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะตรึงราคาต่อ หรือ ปรับราคาขึ้น เพื่อช่วยลดภาระเงินกองทุนน้ำมันฯ
“ปัจจุบัน บัญชีน้ำมันกลับมาเป็นบวกได้แล้ว เหลือแต่บัญชีLPG ที่ยังน่าเป็นห่วง แบกภาระกว่า 4 หมื่นล้านบาท ขณะที่ กองทุนน้ำมันฯ ยังมีภาระหนี้เงินกู้ที่ต้องชำระคืนสถาบันการเงิน เหลืออยู่ประมาณ 55,277 ล้านบาท ดังนั้น ทางกระทรวงพลังงาน จะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆให้รอบด้าน ทั้งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัญหาค่าครองชีพของประชาชน และภาระหนี้ของกองทุนฯ ซึ่งหากต้องปรับขึ้นราคาก็เป็นการทยอยปรับเพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด หรือหากจะตรึงราคาต่อก็ยังพอทำได้ เพราะกองทุนฯยังมีเงินไหลเข้า ก็คาดว่าจะมีทิศทางนโยบายที่ชัดเจนออกมาภายในเดือน มิ.ย.นี้”
ทั้งนี้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 1 มิ.ย. 2568 ติดลบรวม 40,103 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน กลับมาเป็นบวก อยู่ที่ 4,634 ล้านบาท และ บัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 44,737 ล้านบาท
โดยกองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลเข้าวันละ 294 ล้านบาท หรือ 8,820 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นรายได้จากผู้ใช้น้ำมันเท่านั้น และต้องนำเงินมาอุดหนุนราคา LPG ซึ่งปัจจุบัน กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยราคา LPG อยู่ 2.5218 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม
