“พิพัฒน์” กำชับทางหลวงเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสมุทรสาคร 24 ชม. – เร่งสูบน้ำป้องกันน้ำท่วมผิวทาง ขณะการจราจรบนพระราม 2 ยังคล่องตัวทุกช่องทาง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.)และแขวงทางหลวงสมุทรสาครติดตามสถานการณ์ “น้ำทะเลหนุน” บริเวณถนนพระราม 2 (ทล.35) อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วง กม.39+000 ซึ่งเป็นจุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้การเดินทางของประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมกำชับให้ เฝ้าระวังต่อเนื่องจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีการคาดการณ์ว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงกว่าปกติ
ตลอดช่วงเช้าวันนี้ แขวงทางหลวงสมุทรสาครรายงานว่า ระดับน้ำในคลองบ้านบ่อสูงกว่าระดับคันดินเดิมประมาณ 20 เซนติเมตร แต่ ยังไม่ล้นขึ้นผิวทาง และไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจร ทีมงานได้ขุดร่องระบายน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งดึงน้ำกลับลงคลองอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเวลา 14.00 น. ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 25 เซนติเมตร ตามสภาพน้ำทะเลหนุนรอบบ่าย กรมทางหลวงจึงเร่งเพิ่มกำลังสูบ โดยเดินเครื่องสูบน้ำรวม 4 เครื่อง (ไฟฟ้า 2 เครื่อง และน้ำมัน 2 เครื่อง) เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
แม้ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น แต่ การจราจรยังคล่องตัว ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ มีน้ำขังเล็กน้อยที่ไหล่ทาง กม.39+000 และมีน้ำท่วมบางส่วน 1 ช่องจราจรที่ กม.39+600 ฝั่งขาออก ไม่มีน้ำท่วมผิวทาง และ ทุกช่องทางยังสามารถสัญจรได้ตามปกติ ไม่มีการหยุดนิ่งหรือจราจรติดขัด
นายพิพัฒน์ ย้ำว่า กรมทางหลวง ต้องดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า “พระราม 2 ยังใช้งานได้ตามปกติ” พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงให้เฝ้าระวังระดับน้ำแบบเรียลไทม์ และเดินเครื่องสูบน้ำต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ และดูแลพื้นที่นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อรายงานสถานการณ์ทุกระยะ และพร้อมปรับแผนการระบายน้ำทันที หากระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงวันที่ 8–12 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงตามการพยากรณ์