“มนพร” ดึง “การท่าเรือฯ​ – กรมศุล​กากร” เชื่อมต่อระบบ Scanning ตู้สินค้า ยกระดับความปลอดภัยท่าเรือไทยสู่มาตรฐานโลก

ผู้ชมทั้งหมด 38 

“มนพร” ดึง “การท่าเรือฯ​ – กรมศุล​กากร” เชื่อมต่อระบบ Scanning ตู้สินค้า ยกระดับความปลอดภัยท่าเรือไทยสู่มาตรฐานโลก ตอบสนองความต้องการผู้ประกอบการ – ภาคธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศระยะยาว

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และกรมศุลกากรได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) การเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ (Scanning System) ในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูล การพัฒนาศักยภาพด้านโลจิสติกส์ และการศุลกากรของประเทศ เพื่อยกระดับการให้บริการและการรักษาความปลอดภัยของท่าเรือไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล มีความโปร่งใส รวดเร็ว แม่นยำ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ของไทยให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบการ นักลงทุน ตลอดจนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยทางทะเลและระบบท่าเรือไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ภายใต้ข้อกำหนดของ ISPS Code (International Ship and Port Facility Security Code) สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ นักลงทุน และพันธมิตรทางการค้า ขณะเดียวกันยังสะท้อนวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของ กทท. และกรมศุลกากร ที่นำเทคโนโลยีและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานมาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางทะเลและยกระดับระบบโลจิสติกส์ของประเทศ เป็นการบูรณาการศักยภาพของ กทท. และกรมศุลกากร โดย กทท. จะพัฒนาระบบเชื่อมต่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อนำไปใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน และมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มดำเนินการที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือหลักด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นแห่งแรก และจะขยายสู่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรืออื่น ๆ ของ กทท. ในอนาคต 

ทั้งนี้ กทท. และกรมศุลกากรได้กำหนดแนวทางการใช้และการบริหารจัดการข้อมูลอย่างรัดกุม เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความมั่นคงระหว่างประเทศ พร้อมทั้งจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการบริหารจัดการและกำกับดูแลระบบเชื่อมโยงอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อกำหนดมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูล ติดตามผลการดำเนินงาน แก้ไขปัญหาทางเทคนิคและพัฒนาระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยจะประชุมและประสานงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐและมาตรฐานสากล