วิ่งฟรี! 3 เดือน มอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่–กาญจนบุรี คาดเก็บเงินปลาย ม.ค. 69 ทล.พร้อมชง ครม.เคาะสร้าง M8 เฟส 1 นครปฐม- ปากท่อ มูลค่ากว่า 5.5 หมื่นล้าน เชื่อมโยงการเดินทางลงใต้ ค่าผ่านทางรถยนต์ 4 ล้อ สูงสุดตลอดเส้นทาง 150 บาท
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ณ อาคาร CCB โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญขนบุรี (M 81 ) บริเวณด่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามความพร้อมในการเปิดทดลองให้บริการ มอเตอร์เวย์ M81ที่ได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 00:01 น. ของวันที่ 31 ต.ค.68 โดยมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และบริษัทร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการ (BGSR 81), บริษัทที่ปรึกษาโครงการ และบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างเข้าร่วม
นางสาวมัลลิกา กล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน และสะท้อนถึงการบูรณาการของทุกภาคส่วนในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ทางอย่างเต็มระบบ โดยมอเตอร์เวย์ M81 ระยะทาง 96 กิโลเมตร นับเป็นโครงข่ายยุทธศาสตร์ด้านคมนาคมที่สำคัญของประเทศที่จะเชื่อมโยงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลไปสู่ภาคตะวันตก และเชื่อมต่อไปยังภาคใต้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนนทบุรี นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในการเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางจาก ถ.รัตนาธิเบศ อ.บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ถึง จังหวัดกาญจนบุรีเหลือเพียงไม่ถึง 1 ชม. จากเดิมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง
โดยการเปิดทดลองให้บริการครบทุกด่านครั้งนี้ เป็นการเปิดให้รถทุกประเภทที่อนุญาตให้ใช้มอเตอร์เวย์สามารถเข้ามาใช้บริการได้ฟรี ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งที่ผ่านมา ทล.ได้ทดลองเปิดให้บริการตลอดเส้นทาง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 สามารถสรุปสถิติปริมาณจราจรเฉลี่ยมากกว่า 35,000 คัน/วัน และสูงสุดมากกว่า 50,000 คัน/วัน ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ดังนั้นโครงการนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจกว่า 100,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความต้องการใช้เส้นทางของประชาชนได้เป็นอย่างดี
นายปิยพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันโครงการฯ ยังอยู่ในระหว่างการการก่อสร้าง พร้อมทั้งยังมีงานติดตั้งและทดสอบระบบต่างๆ จึงได้กำหนดให้มีการจำกัดความเร็วของยานพาหนะเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยรถยนต์ รถกระบะ รถตู้ รถบรรทุก และรถบัสโดยสาร จำกัดความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนรถพ่วงจำกัดความเร็วไม่เกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในช่วงการเปิดทดลองให้บริการนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้กรมทางหลวง บริษัท บีจึเอสอาร์ 81 จำกัด ในฐานะเอกชนที่รับผิดชอบดูแลและบริหารจัดการมอเตอร์เวย์ M81 และทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้ง ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด
สำหรับอัตราค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ M 81 มีดังนี้ รถยนต์ 4 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 150 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 10 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 1.5 บาทต่อกิโลเมตร รถยนต์ 6 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 240 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 16 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 2.4 บาทต่อกิโลเมตร รถยนต์มากกว่า 6 ล้อ ค่าผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทาง 350 บาทประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 23 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 3.45 บาทต่อกิโลเมตร
นายปิยพงษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดำเนินงานติดตั้งงานระบบ ภายใต้สัญญาการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ หรือ PPP ในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา หรือ O&M นั้น ปัจจุบันมีความคืบหน้า 98% โดย ทล.ได้เร่งรัดให้ บริษัท บีจีเอสอาร์ 81 ดำเนินการติดตั้งและทดสอบงานระบบส่วนที่เหลือ เพื่อเตรียมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบและเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ภายในเดือนมกราคม 2569
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงอย่างราบรื่นไร้รอยต่อสู่ภาคตะวันตกและภาคใต้ ทล.อยู่ระหว่างดำเนินแผนงานสำคัญในปี 2569 ได้แก่ โครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 338 ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายทางยกระดับบรมราชชนนี ช่วงพุทธมณฑลสาย 3 – พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 4.63 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 4,490 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมลงนามสัญญากับผู้รับเหมา คาดจะเริ่มก่อสร้างเดือน กุมภาพันธ์ 2569 และน่าจะสามารถเปิดใช้งานได้ในช่วงเดือน เมษายน 2572
รวมถึงโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม – ชะอำ (M8) เฟส 1 นครปฐม-ปากท่อ ระยะทาง 61 กิโลเมตร เชื่อมจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสมุทรสงคราม เชื่อมไปสู่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบัน ทล.ได้นำเสนอโครงการฯไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยกระทรวงคมนาคมจะผลักดันโครงการฯ ให้ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานก่อสร้างในส่วนของงานโยธาที่จะเริ่มในปี 2570 วงเงินงบประมาณการก่อสร้างงานโยธาและการเวนคืนจัดกรรมสิทธ์ที่ดินรวม 54,562 ล้านบาท
ทั้งนี้การดำเนินโครงการM 8 เฟส 1 จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ช่วง โดยระยะแรกช่วงที่ 1นครปฐม-ตลาดจินดา ระยะทาง 11 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 10,509 ล้านบาท น่าจะเริ่มดำเนินงานได้ในปี 69 โดยใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ ส่วนช่วงที่ 2 ตลาดจินดา-ปากท่อ ระยะทาง 50 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 29,653 ล้านบาท จะเสนอของบประมาณปี 70 ขณะที่ค่าจัดกรรมสิทธ์ที่ดินนั้นจะใช้งบประมาณปี 69 ทยอยจ่ายไป
สำหรับM 8 เฟส 2 ปากท่อ-ชะอำนั้น เนื่องจากมีเสียงคัดค้านจากชาวบ้านจำนวนมาก ทางทล.จึงอยู่ระหว่างการปรับแผนโดยจะทำการทบทวนผลการศึกษาและปรับแนวเส้นทางใหม่เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด