ผู้ชมทั้งหมด 226
“วีริศ” ร่วมเสวนาเวทีผู้นำองค์กรระบบรางของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก “Asia Pacific Rail 2025” แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เดินหน้าผลักดันแผนพัฒนาพื้นที่ “บางซื่อ” สู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียน

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าร่วมงาน “Asia Pacific Rail 2025” งานแสดงสินค้าและประชุมวิชาการระดับภูมิภาคด้านระบบราง ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยได้รับเกียรติร่วมเสวนาใน 2 หัวข้อหลัก ได้แก่ “Keynote Rail Leader Interview” และ “Keynote Panel: Transit-Oriented Development (TOD) – Driving the Long-Term Success of Rail Public-Private Partnerships in APEC” ร่วมกับผู้นำองค์กรระบบรางจากประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายวีริศ กล่าวว่า บทบาทของประเทศไทยในฐานะ “ประตูสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” มีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรางของภูมิภาค โดยเชื่อมโยงการเดินทางและโลจิสติกส์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของการรถไฟฯ ที่มุ่งพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน
ผู้ว่าการรถไฟฯ ยังกล่าวถึงการเร่งเดินหน้าผลักดันแผนพัฒนาพื้นที่บางซื่อ บนพื้นที่รวมกว่า 1,184 ไร่ สู่ “Bang Sue TOD Project” ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียด้วยว่า มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของรัฐ และสร้างแหล่งเศรษฐกิจใหม่รองรับการเติบโตของกรุงเทพมหานคร ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 169,000 ล้านบาท โดยแบ่งพื้นที่พัฒนาออกเป็น 9 โซนสำคัญ ครอบคลุมหลากหลายฟังก์ชัน ทั้งศูนย์ธุรกิจอัจฉริยะ สมาร์ทซิตี้ วัฒนธรรมดั้งเดิมและนานาชาติ และอาคารที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน ดังนี้
• Zone A: Smart Business Complex – อาคารสำนักงาน โรงแรม และสถานีขนส่งผู้โดยสาร
• Zone B: Bang Sue Business Hub – ศูนย์รวมธุรกิจใจกลางบางซื่อ
• Zone C: MICE Super Arena – ศูนย์จัดงานขนาดใหญ่ พร้อมคอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม และอพาร์ตเมนต์
• Zone D: Traditional Culture – พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมดั้งเดิม และกิจการเชิงพาณิชย์
• Zone E: Smart City Complex – อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย โรงแรม และสวนสาธารณะ
• Zone F: Future District – อาคารสำนักงาน และคอมมูนิตี้มอลล์ทันสมัย
• Zone G: Global Business – ที่พักอาศัย อาคารสำนักงานเกรด A โรงแรม 5 ดาว
• Zone H: International Culture – ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ในบรรยากาศวัฒนธรรมนานาชาติ
• Zone I: Smart Complex & Residence – พื้นที่พักอาศัย สมาร์ทออฟฟิศ และศูนย์การค้า
“การรถไฟฯ และบริษัทลูกคือ เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนโครงการฯ ดังกล่าวให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อรองรับบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียนในอนาคต” นายวีริศ กล่าว



ขณะที่ในโซนนิทรรศการ การรถไฟฯ ยังจัดบูธนิทรรศการ นำเสนอเทคโนโลยีด้านระบบอาณัติสัญญาณ อาทิ เทคโนโลยีการบริหารจัดการโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่ปลอดภัยและเสถียรที่สุด ได้แก่ Dense Wavelength Division Multiplexing : DWDM ซึ่งเป็นระบบที่ใช้เพิ่มความสามารถในการส่งข้อมูลบนสายไฟเบอร์ออพติก และเทคโนโลยีโครงข่ายสวิตช์สำหรับระบบโทรคมนาคม Backbone (Multi-Protocol Label Switching : MPLS)
รวมถึงระบบควบคุมอาณัติสัญญาณจากศูนย์กลาง (CTC) ระบบสัมพันธ์อาณัติสัญญาณควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ (CBI) และระบบป้องกันเหตุอันตรายของขบวนรถตามมาตรฐานยุโรป (ETCS) ซึ่งถือเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้และมาตรฐานของไทยสู่เวทีสากล แสดงถึงศักยภาพของการรถไฟฯ ในการพัฒนาระบบรางให้ทันสมัย ปลอดภัย และเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในวงการอุตสาหกรรมระบบรางระดับโลก
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังจัดบูธแสดงนิทรรศการของโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ เพื่อนำเสนอชุดการเรียนรู้การเดินทางของรถไฟจำลอง และสื่อ Multimedia ผ่านจอแสดงผล รวมถึงประชาสัมพันธ์หลักสูตรโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟและสถาบันฝึกอบรมระบบรางด้วย
สำหรับงาน Asia Pacific Rail 2025 ครั้งนี้ ถือเป็นเวทีสำคัญที่รวมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบบรางจากนานาประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณและการสื่อสาร การเดินรถและซ่อมบำรุง ตลอดจนเทคโนโลยีสมัยใหม่ของระบบรางในยุคดิจิทัล