ผู้ชมทั้งหมด 120
สกนช. ประกาศปรับเพิ่มเงินชดเชย LPG เป็น 2.33 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมเรียกเก็บเงินโรงแยกก๊าซฯ ที่ผลิต LPG ส่งเข้ากองทุนฯ เพิ่มขึ้นเป็น 6.1630 บาทต่อกิโลกรัม ไม่กระทบราคาขายปลีก LPG ถัง 15 กิโลกรัม ยังคงอยู่ที่ 423 บาท ถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2568 ขณะสถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีLPG ติดลบต่อเนื่อง
สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) เผยแพร่ประกาศ “การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)” โดยมีนางไพลิน ฟุ้งเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักการเงินและบัญชี และในฐานะรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นผู้ลงนามในประกาศฯ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2568 โดยกำหนดเปลี่ยนแปลงเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในบัญชี LPG ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 2568 เป็นต้นไป
สำหรับในประกาศดังกล่าว กำหนดให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ผลิตในประเทศเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง ในอัตรา 6.1630 บาทต่อกิโลกรัม โดยปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ 5.9754 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวมถึง LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และ LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) อ.กงไกรลาศ จ. สุโขทัย
อย่างไรก็ตามให้ บริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตรา 4.6149 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 4.4273 บาทต่อกิโลกรัม
พร้อมปรับเงินชดเชยราคา LPG เพิ่มขึ้นเป็น 2.3348 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมชดเชยอยู่ 2.1472 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวม LPG จากการแยกก๊าซฯ ที่ซื้อหรือได้จากรัฐ ผู้รับสัมปทาน หรือผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) โดยโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ.สยาม จำกัด โดยราคาขายปลีก LPG ยังคงเท่าเดิม 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ถึง 30 มิ.ย. 2568 หลังจากนั้นต้องรอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาต่อไป
รวมทั้งกำหนดเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ซื้อหรือได้มาจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด ในอัตรา 4.6671 บาทต่อกิโลกรัม (เท่าเดิม)
ส่วนกรณี LPG ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนฯ แล้ว ให้ส่งเงินชดเชยคืนกองทุนฯ 2.3348 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 2.1472 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในบัญชี LPG เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาLPG ในตลาดโลก และสถานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะบัญชี LPG ที่ยังติดลบ ซึ่งปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินไหลเข้าจาก LPG ลดลงเหลือ 19 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 570 ล้านบาทต่อเดือน) จากเดิมมีรายได้เข้า 20 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 600 ล้านบาทต่อเดือน) ขณะที่ราคา LPG โลกเดือน เม.ย. 2568 อยู่ระดับประมาณ 577.83 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 27 เม.ย. 2568 ติดลบรวม อยู่ที่ 49,981 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ 4,616 ล้านบาท และบัญชีLPG ติดลบ 45,365 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กำหนดกรอบวงเงินสำหรับอุดหนุนราคา LPG ไว้ วงเงินไม่เกิน 50,000 ล้านบาท