“สกนช.” เผย สถานะเงินกองทุนฯ บัญชีน้ำมันบวกกว่า 4 พันลบ.

ผู้ชมทั้งหมด 389 

“สกนช.” เผยสถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีน้ำมัน เป็นบวก อยู่ที่ 4,634 ล้านบาท หลังรัฐฉวยจังหวะราคาตลาดโลกลดลงเร่งเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ หลังสถานะสุทธิกลับมาเป็นบวกช่วง ต.ค.-พ.ย. 2568 นี้ ขณะที่หนี้เงินกู้ เหลืออีก 55,277 ล้านบาท ด้าน “สนพ.” เผยค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยระหว่าง 1-5 มิ.ย. 2568 อยู่ที่ 2.41 บาทต่อลิตร   

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 1 มิ.ย. 2568 ติดลบรวม 40,103 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน กลับมาเป็นบวก อยู่ที่ 4,634 ล้านบาท และ บัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 44,737 ล้านบาท

โดยกองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลเข้าวันละ 313.65  ล้านบาท (หรือประมาณ 9,409 ล้านบาทต่อเดือน) มาจากการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล วันละ 201 ล้านบาท และกลุ่มเบนซิน วันละ 93 ล้านบาท รวมถึง มาจากโรงแยกก๊าซฯ วันละ 19.65  ล้านบาท 

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า หากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับปัจจุบันมากนัก คาดว่า สถานะสุทธิของกองทุนน้ำมันฯ จะกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงเดือน ต.ค.- พ.ย.นี้ แต่อย่างไรก็ตาม กองทุนน้ำมันฯ ยังมีภาระหนี้เงินกู้ที่ต้องชำระคืนสถาบันการเงิน ที่เหลืออยู่ 55,277 ล้านบาท จากวงเงินกู้รวม อยู่ที่ 105,333 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2565-2566 เพื่อนำมาพยุงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร) โดยกองทุนน้ำมันฯ ได้เริ่มชำระหนี้เงินต้นมาตั้งแต่ พ.ย. 2567 และคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) คาดว่า จะชำระหนี้เงินกู้ครบทั้งหมดภายในปี 2571

ขณะที่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยข้อมูลค่าการตลาดน้ำมัน ล่าสุด ณ วันที่ 5 มิ.ย. 2568 พบว่า ค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ทรงตัวระดับสูง โดยน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 เรียกเก็บค่าการตลาด อยู่ที่ 3.59 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เรียกเก็บค่าการตลาด อยู่ที่ 3.44 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์91 เรียกเก็บค่าการตลาด อยู่ที่ 3.50 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เรียกเก็บค่าการตลาด อยู่ที่ 3.44 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เรียกเก็บค่าการตลาด อยู่ที่ 3.44 บาทต่อลิตร, ดีเซล เรียกเก็บค่าการตลาด อยู่ที่ 1.64 บาทต่อลิตร  โดยค่าการตลาดเฉลี่ย ระหว่าง 1-5 มิ.ย. 2568 อยู่ที่ 2.41 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสม 1.5 – 2 บาทต่อลิตร)