สกนช.เผย สถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ติดลบเหลือ 22,982 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังหยุดชดเชยราคาน้ำมันทุกชนิด ขณะที่ปัจจุบันมีเงินไหลเข้ากว่า 6,000 ล้านบาทต่อเดือน คาดใช้หนี้หมดตามแผนในปี 2572
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า จากการเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ของ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ล่าสุด ณ วันที่ 31 ส.ค. 2568 พบว่า กองทุนฯ ติดลบเหลือ 22,982 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันฯ อยู่ที่ 19,960 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบรวม 42,942 ล้านบาท
ทั้งนี้ สถานะกองทุนฯ ที่ติดลบรวม อยู่ที่ 22,982 ล้านบาท ถือว่าติดลบน้อยที่สุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2564 เนื่องจากกองทุนฯ ได้ยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันทุกชนิด และหันไปเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันส่งเข้ากองทุนฯ ทั้งหมด ตั้งแต่ 6 ส.ค. 2567 เป็นต้นมา ส่งผลให้บัญชีน้ำมันมีเงินไหลเข้าเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี จำนวน 773 ล้านบาท ในเดือน พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา และปัจจุบันบัญชีน้ำมันมีเงินไหลเข้ารวม 19,960 ล้านบาท
โดยปัจจุบัน มีเงินเข้ากองทุนฯ รวม 212.78 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 6,383 ล้านบาทต่อเดือน) ซึ่งมาจากผู้ใช้น้ำมันส่งเข้ากองทุนฯ 185.09 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 5,552 ล้านบาทต่อเดือน) และมาจากโรงแยกก๊าซ 27.69 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 830 ล้านบาทต่อเดือน)
อย่างไรก็ตาม กองทุนฯ ยังคงมีภาระหนี้ที่กู้ยืมเงินมาจากสถาบันการเงินฯ รวม 105,333 ล้านบาท ระหว่างปี 2565-2566 ปัจจุบันเหลือหนี้อยู่ 52,360 ล้านบาท โดยในเดือน ต.ค.นี้ จะต้องจ่ายหนี้เงินต้นสูงสุดประมาณ 3,000 ล้านบาท หลังจากนั้นจะทยอยลดลง และในแต่ละเดือนจะต้องจ่ายดอกเบี้ย 250 บาทต่อเดือนด้วย คาดว่าจะชำระหนี้หมดตามกำหนดในปี 2572
ขณะที่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผย ค่าการตลาดน้ำมันที่ผู้ค้าเรียกเก็บจากประชาชน ล่าสุด วันที่ 4 ก.ย. 2568 พบว่า น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถูกเรียกเก็บค่าการตลาด 3.31 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดที่ 3.03 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3.09 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.14 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 3.99 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 1.51 บาทต่อลิตร โดยค่าการตลาดเฉลี่ย ระหว่างวันที่ 1- 4 ก.ย. 2568 อยู่ที่ 2.37 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสม 1.5-2 บาทต่อลิตร)
