ผู้ชมทั้งหมด 68
“สุริยะ” ลงพื้นที่พระราม 2 เช็คความปลอดภัยงานก่อสร้างทั้งมอเตอร์เวย์M 82- ด่วนพระราม 3ดาวคะนอง สร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการสัญจร ยืนยันเปิดให้บริการตามแผนภายในสิ้นปีนี้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ช่วงแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย บริเวณตั้งแต่ กม. ที่ 16 – 20 และศูนย์บริหารการจราจรระหว่างการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 35 กม. ที่ 27 อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 โดยมีหัวหน้าหน่วยงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมด้วย



นายสุริยะ กล่าวว่า เพื่อสร้างความมันใจให้ประชาชนในการสัญจรถนนพระราม 2 ตนจึงได้มาติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงาน พร้อมตรวจสอบความปลอดภัย เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่หยุด ส่งผลให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางนี้มีความหลากผวา ซึ่งตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการกำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการก่อสร้างทั้งกรมทางหลวง(ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยประเทศไทย(กทพ.) ดำเนินงานโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และยกระดับความปลอดภัย กับประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และผู้ปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งได้มีการเชิญทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยเข้ามาช่วยประเมินสภานการณ์ พร้อมหามาตรการที่ทำให้การก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานให้ได้มากที่สุด รวมถึงการติดตั้งระบบตรวจสุขภาพโครงสร้างของคานเหล็กลำเลียง (SHM launching gantry) ซึ่งจะทำการตรวจจับ หากโครงสร้างมีความผิดปกติ จะแจ้งเตือนไปยังผู้คุมงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเข้าตรวจสอบความผิดปกติทันที
นายสุริยะ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างช่วง ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ตอนที่ 1-3 และ ช่วงเอกชัย-บ้านเเพ้วสมุทรสาคร ตอนที่ 1-10 มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ล่าสุดมีความก้าวหน้าด้านโยธาแล้วกว่า 82% ใกล้เคียงแผนกำหนดไว้ ดังนั้นมั่นใจว่าโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 จะแล้วเสร็จทั้งหมดและเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปี 68 อย่างแน่นอน
“ผมได้เน้นย้ำกับ ทล. และ กทพ. ให้กำกับผู้รับเหมาให้จริงจังเกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัยเ ทั้งในส่วนของคนงานก่อสร้างและประชาชนที่สัญจรบนท้องถนนต้องมีความปลอดภัย ไม่ควรมีเหตุการณ์ชิ้นส่วนใด ๆ ร่วงหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ตาม ”นายสุริยะกล่าว
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการ “สมุดพกผู้รับเหมา” ปัจจุบันร่างแก้ไขกฎกระทรวงฯ ที่จะทำให้มาตรการสมุดพกผู้รับเหมามีผลบังคับใช้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อ 8 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกรมบัญชีกลางได้จัดทำร่างแก้ไขระเบียบฯ ที่กำหนดกฎเกณฑ์และเงื่อนไขในการตัดแต้ม รวมถึงบทลงโทษการตัดสิทธิ์เข้าประมูลงานและการปรับลดชั้นผู้รับเหมา กรณีเกิดอุบัติเหตุจากความบกพร่องและมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหรือทรัพย์สินเสียหาย เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว คาดว่ากระบวนการตามขั้นตอนที่เหลือจะแล้วเสร็จ และมีผลบังคับประมาณเดือน ก.ค. หรือไม่เกินกลางเดือน ส.ค.68
โดยมาตรการสมุดพกจะสามารถนำไปบังคับใช้สำหรับโครงการก่อสร้างใหม่เท่านั้น โดยไม่สามารถบังคับย้อนหลังใช้กับโครงการเดิมที่มีการทำสัญญาไว้แล้วได้ แต่ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานให้เข้าดูแลทุกโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลควบคุมงานตลอดเวลาให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด จนกว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามแผน
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดี ทล. กล่าวว่า โครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ช่วงแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย จำนวน 3 สัญญา มีความคืบหน้าแล้ว 100% และช่วงเอกชัย – บ้านเเพ้ว จำนวน 10 สัญญา (ณ เดือนเมษายน 2568) มีความคืบหน้าแล้ว 78% ทั้งนึ้ ช่วงเอกชัย – บ้านเเพ้ว จำนวน 10 สัญญานั้น (ณ เดือนเมษายน 2568) แบ่งเป็น ตอนที่ 1 คืบหน้า 79.55% ตอนที่ 2 คืบหน้า 83.71% ตอนที่ 3 คืบหน้า 90.27% ตอนที่ 4 คืบหน้า 59.63% ตอนที่ 5 คืบหน้า 83.29% ตอนที่ 6 คืบหน้า 68.50% ตอนที่ 7 คืบหน้า 54.22% ตอนที่ 8 คืบหน้า 83.66% ตอนที่ 9 คืบหน้า 91.65% และตอนที่ 10 คืบหน้า 80.65% อย่างไรก็ตามในส่วนของการให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M)นั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมการประกวดราคา คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จและสามารถลงนามในสัญญากับเอกชนได้ช่วงเดือนมิ.ย.69
ด้วย นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการกทพ. กล่าวว่า ขณะที่โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ล่าสุดความก้าวหน้าภาพรวมอยู่ที่ 89.39% ซึ่งทุกสัญญางานด้านโยธาจะแล้วเสร็จภายในช่วงเดือนพ.ย.68 และจะพิจารณาแนวทางในการเปิดให้ประชาชนใช้บริการต่อไป