โรงไฟฟ้าแม่เมาะ สร้างผลพลอยได้จากเถ้าลอย เถ้าหนัก ยิปซัม หนุนการลดคาร์บอนฯ

ผู้ชมทั้งหมด 80 

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นอกจากเป็นหน่วยงานที่ลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า เพื่อความมั่นคงของประเทศแล้วยังได้พัฒนาในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจาการผลิตไฟฟ้าอีกด้วย โดยโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้มีการติดตั้งเทคโนโลยีกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (FGD) ระบบดักจับฝุ่นแบบไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Precipitator, ESP) และระบบกำจัดก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (Dry Low NOX Burner และระบบ Selective Catalytic Reduction: SCR) ช่วยลดฝุ่นได้เป็นอย่างดี นอกจากช่วยลดฝุ่นแล้ว โรงไฟฟ้าแม่เมาะยังได้ประโยชน์จากเถ้าลอย เถ้าหนัก ยิปซัมสังเคราะห์ และผลิตภัณฑ์จากวัตถุพลอยได้อื่นๆ ไปใช้ประโยชน์

โดยปัจจุบัน กฟผ.มีการจำหน่ายเถ้าลอยลิกไนต์ประมาณ 800,000 – 1,000,000 เมตริกตันต่อปี สำหรับนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตคอนกรีต ซึ่งมีงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ให้เห็นว่าการใช้เถ้าลอยลิกไนต์สามารถนำมาผสมทดแทนปูนซีเมนต์ได้ โดยการจำหน่ายเถ้าลอยลิกไนต์นั้น กฟผ. มีรายได้ประมาณ 500 – 600 ล้านบาทต่อปี ส่วนยิปซัมสังเคราะห์มีการจำหน่ายประมาณ 400,000 – 500,000 เมตริกตันต่อปี สำหรับไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ และไฟเบอร์ซีเมนต์ รวมถึงใช้ในภาคการเกษตร โดยมีรายได้ในการจำหน่ายยิปซัมสังเคราะห์ประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี

พร้อมกันนี้กฟผ.ยังอยู่ระหว่างผลักดันให้เกิดการใช้งานในกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ Activated Fly Ash (Inno-Green Concrete) คอนกรีตสีเขียวที่นำเถ้าลอยลิกไนต์ทดแทนปูนซีเมนต์ในการผลิตคอนกรีตได้สูงสุดถึง 100% ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตปูนซีเมนต์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้จากเถ้าลอย เถ้าหนัก และยิปซัมนั้นเป็นหนึ่งของหลายโครงการในโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ดำเนินการ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ช่วยสนับสนุนประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี ค.ศ. 2065 

โดยโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้ดำเนินการทยอยปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงไปสู่พลังงานสะอาด เช่น ไฮโดรเจนและชีวมวล เพื่อลดการพึ่งพาถ่านหิน นอกจากนี้โรงไฟฟ้าแม่เมาะยังอยู่ระหว่างการติดตั้งโซลาร์ฟาร์ม ระยะที่ ขนาดกำลังการผลิต 38.5 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าใช้ในการทำเหมืองแม่เมาะ เพื่อช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะในช่วงเวลากลางวัน ทั้งนี้โครงการโซลาร์ฟาร์มแม่เมาะนั้นมีขนาดพื้นที่โครงการประมาณ 490 ไร่ คาดว่าจะเริ่มทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในวันที่ 24 เดือนสิงหาคมนี้ ราว 5 – 10 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะสามารถ COD ครบ 38.5 เมกะวัตต์ได้สิ้นปีนี้  

อนึ่งโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเชื้อเพลิงถ่านหินลิกไนต์ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตตามสัญญารวม 2,220 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน เครื่องที่ 8-14 กำลังการผลิตเครื่องละ 270 เมกะวัตต์ รวม 1,620 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อน เครื่องที่ 14 (ทดแทนเครื่องที่ 4-7) กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อน เครื่องที่ 1-3 เครื่องละ 75 เมกะวัตต์