ผู้ชมทั้งหมด 125
25 ส.ค.นี้ เปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ยันระบบไม่ล่ม ก่อนเริ่มใช้บริการ 1 ต.ค. 68 มั่นใจดันผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 20%

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 25 ส.ค.68 เป็นต้นไป เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ตลอดสาย ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ”และการลงทะเบียนไม่มีวันหมดอายุ สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android ภายใต้เงื่อนไขว่า จะต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย โดยจะต้องระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่ลงทะเบียน) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งบัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิการใช้มาตรการโดยอัตโนมัติ หากไม่ลงทะเบียน จะต้องจ่ายค่าโดยสารในอัตราปกติ ทั้งนี้ มั่นใจว่า ในการลงทะเบียนระบบจะไม่ล่ม เนื่องจากจะใช้รูปแบบคล้ายกับการเปิดให้ลงทะเบียนนโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่มีผู้ลงกว่า 18 ล้านคน แต่ระบบสามารถรองรับได้
อย่างไรก็ตามขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า การลงทะเบียนใช้สิทธิมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ทุกคนจะได้สิทธิ์อย่างเท่าเทียม และจะเริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.68 ครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานคร (กทท.) และปริมณฑล จำนวน 8 สาย รวม 13 เส้นทาง ทั้งสิ้น 194 สถานี ระยะทางรวม 276.84 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งหลังจากเปิดใช้มาตรการดังกล่าวแล้ว คาดการณ์ว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นจากที่ใช้บริการอยู่ในปัจจุบันอย่างน้อย 20%
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ในระยะแรกรูปแบบบัตร Rabbit Card สามารถใช้บริการได้ 4 สาย คือ สายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless (Visa/Mastercard) ตามเงื่อนไขธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการที่กำหนด สามารถใช้บริการได้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (ARL) ซึ่งในเบื้องต้น หากประชาชนผู้ใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าข้ามสาย จะต้องถือบัตร 2 ใบ แต่ชำระค่าโดยสารเพียง 20 บาทเท่านั้น ส่วนในระยะต่อไปจะนำเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมเข้ามาใช้ในการพัฒนาระบบ อาทิ การสแกนจ่ายค่าโดยสารด้วย QR CODE เพื่อเพิ่มความสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น
“มาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ถือเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทย และกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะช่วยลดค่าครองชีพในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน และยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียม มีความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยลดรถยนต์บนถนน ลดอุบัติเหตุ และมลพิษทางอากาศอย่างมีนัยสำคัญ”นายสุริยะ กล่าว