ผู้ชมทั้งหมด 141
บอร์ด รฟท. เคาะปรับกรอบเงินลงทุนสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เพิ่มกว่า 8,700 ล้าน เป็นวงเงินรวมกว่า 1.04 แสนล้าน เร่งเจรจาเอกชนขอลดดอกเบี้ย
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติปรับกรอบวงเงินลงทุนและจัดหาแหล่งเงินเพิ่มเติมสำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางชื่อ-รังสิต และช่วงบางชื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร เพิ่มอีก 8,703 ล้านบาท จากเดิมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีมติอนุมัติมีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 วงเงิน 96,868.332 ล้านบาท ส่งผลให้วงเงินลงทุนรวมทั้ง 3 สัญญาเป็น 104,445 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ รฟท.จะเร่งเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม ก่อนนำเสนอที่ประชุม ครม.อนุมัติ ต่อไป
สำหรับการปรับเพิ่มกรอบวงเงินดังกล่าว เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษากรณีข้อพิพาทรถไฟสายสีแดงที่คณะอนุญาโตตุลาการ ชี้ขาดให้ รฟท. ชำระค่าเปลี่ยนแปลงงาน (Variation Orders) หรือ VO จำนวน 4.2 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยให้กับกิจการร่วมค้า เอส ยู ซึ่งประกอบด้วย บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ภายใน 60 วัน ทั้งนี้เงินจำนวน 4.2 พันล้านบาทนั้น เป็นเพียงค่างานและค่าตามคำสั่งเปลี่ยนแปลงงานยังไม่รวมรายการเพิ่มเติมอื่นๆ และภาษี ซึ่งหากรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 7,407 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รฟท.มีความกังวลเรื่องระยะเวลาที่มีจำกัดในการชำระเงิน เพราะการอนมุติวงเงินมีกระบวนการและขั้นตอนหลายอย่างเกรงว่าอาจไม่ทันกรอบเวลาตามคำสั่งศาล ดังนั้นในเบื้องต้น รฟท.จึงได้ดำเนินการเจรจากับเอกชนคู่สัญญาไปแล้วเพื่อขอลดดอกเบี้ย และอยู่ระหว่างรอคำตอบอย่างเป็นทางการจากเอกชนอยู่ คาดว่าจะได้การตอบรับในเร็วๆนี้