“สุริยะ – มนพร” ลงพื้นที่ชัยภูมิ – เลย ตรวจความคืบหน้าโครงข่ายการคมนาคมทางถนน

ผู้ชมทั้งหมด 33 

สุริยะ – มนพร” ลงพื้นที่ชัยภูมิ – เลย ตรวจความคืบหน้าโครงข่ายการคมนาคมทางถนน สั่ง “ทล.” ขยายถนน 4 เลน – ปรับปรุงแยกอันตราย เร่งรัด “ทช.” รับมอบถนนจาก อปท. 34 สาย รวม 457 กม.  รองรับการขยายตัวของเมือง หนุนการท่องเที่ยว

วันนี้ (24 พฤษภาคม 2568) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ผมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของประเทศ รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งที่มุ่งเน้นให้การเดินทางและขนส่งมีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย อันจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของจังหวัด และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน

โดยจังหวัดชัยภูมิมีทางหลวงในความดูแลของกรมทางหลวง (ทล.) ทั้งหมด 27 สายทาง เป็นทางสายหลัก 5 สายทาง สายรอง 22 สายทาง มีโครงข่ายสายรองของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) 56 สายทาง และมีเส้นทางการเดินรถโดยสารสาธารณะเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด 39 เส้นทาง ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมารับทราบปัญหาอุปสรรคการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ และรับฟังข้อเสนอแนะในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถรองรับการขยายตัวของเมือง เขตชุมชน และการท่องเที่ยว

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า จากการได้พบปะพี่น้องประชาชนชาวอำเภอคอนสาร และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ณ โรงเรียนคอนสารวิทยาคม ได้รับทราบถึงความเดือดร้อนจากการใช้ถนน จึงได้มอบหมาย ทล. ดำเนินการโครงการก่อสร้างทาง ทล. 2159 ตอนชัยภูมิ – เกษตรสมบูรณ์ และตอนเกษตรสมบูรณ์ – คอนสาร ปรับปรุงเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขยายเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทางรวม 20 กิโลเมตร (กม.) และมีงานปรับปรุงความปลอดภัยบริเวณทางแยกอันตราย 3 แห่ง โครงการขยายและปรับปรุงความปลอดภัยบริเวณทางแยกอันตราย ทล.2037 ตอนภูเขียว – เกษตรสมบูรณ์ 2 แห่ง และโครงการก่อสร้าง ทล.2484 สายทางเลี่ยงเมืองภูเขียว ปรับปรุงเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขยายเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทางรวม 27 กม.

ในส่วนของการดำเนินการรับมอบถนนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีความประสงค์จะส่งมอบให้ ทช. เพื่อพัฒนาเป็นโครงข่ายทางหลวงชนบทในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ 34 สายทาง ระยะทางรวม 457 กม. ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเกณฑ์ความเหมาะสมของคณะทำงาน ก่อนนำเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจพิจารณาต่อไป ส่วนถนนสายทางเข้าเขื่อนจุฬาภรณ์ และถนนสายทางเข้าเขื่อนห้วยกุ่ม ในพื้นที่อำเภอคอนสาร ระยะทาง 38 กม. ที่อยู่ในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่มีความประสงค์จะส่งมอบให้ ทช. พัฒนาเป็นโครงข่ายทางหลวงชนบท ปัจจุบันแขวงทางหลวงชนบทชัยภูมิ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5 (นครราชสีมา) ได้เสนอขอบรรจุเป็นโครงข่ายทางหลวงชนบท เพื่อสำนักบำรุงทาง ทช. พิจารณาในการรับมอบถนนทั้ง 2 สายทางแล้ว

จากนั้นนายสุริยะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง ทล.201 สายบ้านผานกเค้า – บ้านหลักร้อยหกสิบ ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการโครงการก่อสร้างขยายช่องจราจรจาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 21 กม. ภาพรวมมีความคืบหน้ากว่า 93.66% จึงให้ ทล. เร่งดำเนินการเพื่อเพิ่มศักยภาพสายทางให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ ทล.201 ถือเป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างประเทศที่มีเส้นทางยาวจรดถึงริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อีกทั้งยังตัดผ่านทางหลวงสำคัญหลายเส้นทาง เช่น ทล.210 และ ทล.21 เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยบรรเทาความแออัดในเขตชุมชนและพื้นที่สำคัญที่เป็นเส้นทางตัดผ่านประชาชนสามารถเดินทางสัญจรได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น

“ผมได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานผลักดันโครงการต่าง ๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เลย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ให้มีความสมบูรณ์ไร้รอยต่อภายใต้มาตรฐานที่เป็นสากล มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูงสุด” นายสุริยะ กล่าว