ผู้ชมทั้งหมด 191
บอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ ประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อสนับสนุนโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงาน หรือการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน – 18 สิงหาคม 2568 โดยจัดสรรงบประมาณรวม 2,750 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ครั้งที่ 2/2568 (ครั้งที่ 101) โดยมีวาระสำคัญ ได้แก่ การพิจารณาร่างประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อรับคำขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติ
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อรับคำขอรับการสนับสนุนเงินกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ดังนี้
ตามมาตรา 25 (1) วงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้หน่วยงานราชการลงทุนและดำเนินการด้านการลดการใช้พลังงาน และดำเนินการด้านการอนุรักษ์พลังงานด้วยบริษัทจัดการพลังงาน (Energy Service Company : ESCO) ในหน่วยงานราชการ (ในรูปแบบ co-pay ไม่เกินร้อยละ 50) รวมถึงการสนับสนุนและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกในพื้นที่พิเศษ
ตามมาตรา 25 (3) วงเงิน 2,250 ล้านบาท สนับสนุนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา หรือองค์กรเอกชน เพื่อดำเนินการดังน
1)โครงการทางด้านการอนุรักษ์พลังงาน (วงเงิน 1,000 ล้านบาท) ได้แก่
- การสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงาน
- และส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
หรือพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ให้แก่ อาคาร/โรงงานควบคุม (ในรูปแบบ co-pay ไม่เกินร้อยละ 20) อาคาร/โรงงานนอกข่ายควบคุม ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และกลุ่มธุรกิจการขนส่ง (ในรูปแบบ co-pay ไม่เกินร้อยละ 30) ทั้งนี้จะสนับสนุนรายละไม่เกิน 3 ล้านบาท - การสนับสนุนและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ให้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร(ในรูปแบบ co-pay ไม่เกินร้อยละ 50) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)และประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย (สนับสนุนเงินอุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้หรือสินเชื่อสำหรับการลงทุนและดำเนินงานในการอนุรักษ์พลังงาน) และจะสนับสนุนตามค่าใช้จ่ายจริงสำหรับโรงพยาบาลของรัฐ โรงเรียนและศาสนสถานในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารที่สายไฟฟ้าเข้าไม่ถึง/ไม่มีไฟฟ้า หรือไฟฟ้าไม่เพียงพอ และประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารที่สายไฟฟ้าเข้าไม่ถึง/ไม่มีไฟฟ้า
2)การค้นคว้า วิจัย (วงเงิน 400 ล้านบาท) ได้แก่การวิจัยตามภารกิจของกระทรวงพลังงาน
การวิจัยเพื่อสร้างงานต้นแบบ (Prototype) หรือนวัตกรรม การวิจัยเชิงนโยบาย การวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการอนุรักษ์พลังงานในระดับชุมชน
3)โครงการสาธิต หรือโครงการริเริ่มที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน (วงเงิน 400 ล้านบาท) ได้แก่การสาธิตที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานตามภารกิจของกระทรวงพลังงาน การสาธิตที่ยังไม่เคยนำไปดำเนินการ หรือยังไม่มีผลลัพธ์เชิงประจักษ์อย่างชัดเจน มีลักษณะสาธิตในพื้นที่เฉพาะ มีศักยภาพที่แตกต่างกันมีลักษณะการบริหารจัดการในสังคมที่แตกต่างกัน และยังไม่เคยดำเนินการในพื้นที่นั้นมาก่อน
4)การศึกษา การฝึกอบรม และการประชุมเกี่ยวกับพลังงาน (วงเงิน 225 ล้านบาท) ได้แก่การพัฒนาบุคลากร เครือข่ายพลังงาน การพัฒนาหลักสูตร การจัดประชุมสัมมนาด้านวิชาการเกี่ยวกับพลังงาน การให้ทุนการศึกษาแก่บุคลากรของส่วนราชการและสถาบันการศึกษาในการศึกษาต่อในประเทศและต่างประเทศ การให้ทุนอุดหนุนการวิจัยสำหรับนักศึกษา การพัฒนาวิทยาลัยพลังงานแห่งชาติของกระทรวงพลังงาน
5)การโฆษณา การเผยแพร่ข้อมูล และการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการพัฒนาการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (วงเงิน 225 ล้านบาท) ได้แก่ กิจกรรมเผยแพร่นโยบาย มาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือผลงานโครงการที่เกี่ยวกับด้านพลังงาน กิจกรรมสร้างความรู้ ความเข้าใจ




ทั้งนี้ การสนับสนุนตามมาตรา 25 (2) เพื่อเป็นเงินหมุนเวียน เงินช่วยเหลือ หรือเงินอุดหนุน แก่เอกชน สำหรับการลงทุนและดำเนินงานในการอนุรักษ์พลังงาน อยู่ระหว่างการจัดทำระเบียบเพื่อรองรับ การสนับสนุนเงินให้แก่เอกชนโดยตรง
2. เห็นชอบให้เปิดรับข้อเสนอโครงการตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2568 รวมระยะเวลาการเปิดรับข้อเสนอ 2 เดือน ทั้งนี้ในการสนับสนุนโครงการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้ความสำคัญกับโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นโครงการที่ดำเนินการในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร หรือพื้นที่สาธารณะประโยชน์กับประชาชนเป็นส่วนใหญ่
หน่วยงานที่สนใจขอรับการสนับสนุน สามารถยื่นข้อเสนอโครงการผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เว็บไซต์ www.enconfund.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 02-158-1460 ต่อ 1206, 1211 ในวันและเวลาราชการ