ผู้ชมทั้งหมด 114
“มนพร” ร่วมไฟล์ทบินปฐมฤกษ์ไทยไลอ้อนแอร์ ดอนเมือง – นครพนม หลังผลักดันมาตรการส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินสำเร็จ รุกพัฒนาต่อเนื่อง สั่งการ ทย. แต่งตั้งคณะกรรมการฯ บูรณาการภาครัฐ – เอกชน พัฒนาการให้บริการท่าอากาศยานในสังกัด ทย. ทุกแห่ง
ทั้งนี้ วันนี้ (19 มิถุนายน 2568) เวลา 07.30 น. นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมเดินทางในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เส้นทางดอนเมือง – นครพนม ของสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เที่ยวบินที่ SL670 พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน นายอัศวิน ยังกีรศิวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยไลอ้อน แอร์ โดยมี นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายเกียรติชัย ชัยเรืองยศ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน และนางเสาวนีย์ คนกล้า ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ให้การต้อนรับ โดยท่าอากาศยานนครพนมได้จัดพิธีต้อนรับ Airplane Welcome (การทำอุโมงค์น้ำ) พร้อมนี้นางมนพร ผู้บริหาร ทย. ผู้บริหารสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินนี้ ด้วยบรรยากาศอบอุ่น และสร้างความประทับใจอย่างยิ่ง
นางมนพร กล่าวถึง ความสำเร็จในการผลักดันมาตรการส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินใหม่มายังท่าอากาศในสังกัดกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่า การที่สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดเส้นทางบินดอนเมือง – นครพนม แสดงให้เห็นว่ามาตรการ New Route – New Airline ของ ทย. สร้างแรงจูงใจที่ดีในการดึงดูดให้สายการบินเปิดเส้นทางบินมายังท่าอากาศยานในสังกัด ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทาง ส่งเสริมให้เกิดกลไกการแข่งขันทางการตลาดของสายการบินทั้งในด้านราคาค่าโดยสารและคุณภาพการให้บริการ นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัด “สนุก” ได้แก่ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสการเดินทางเชื่อมโยงกับ สปป.ลาว และเวียดนามได้ง่ายขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้สอดรับกับนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ของกระทรวงคมนาคม และการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงการกระจายรายได้สู่ภูมิภาคอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาล
นางมนพร กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อประชุมหารือรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม ทำให้เล็งเห็นถึงบทบาทและความสำคัญของท่าอากาศยานในการเป็นประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากแนวคิด “สนามบินมีชีวิต” ที่ทุกท่าอากาศยานได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อต้อนรับและดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีแล้ว เพื่อพัฒนาการให้บริการผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ ทย. แต่งตั้งคณะกรรมการการพัฒนาการให้บริการท่าอากาศยาน ในทุกจังหวัดที่มีท่าอากาศยานในสังกัดของ ทย. เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ด้วยการสร้างโอกาสการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เปิดโอกาสให้หน่วยงานในพื้นที่มีส่วนร่วมแสดงข้อคิดเห็น และทำความเข้าใจถึงประโยชน์ที่ส่วนรวมจะได้รับจากการพัฒนาการให้บริการของท่าอากาศยาน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และทำให้การดำเนินงานตามภารกิจของ ทย. บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกระทรวงคมนาคม
นายดนัย กล่าวถึง การดำเนินการตามแนวทางการพัฒนา การให้บริการท่าอากาศยาน ซึ่ง ทย. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการการพัฒนาการให้บริการของท่าอากาศยาน โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นประธาน ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน เป็นรองประธาน ผู้แทนจากหน่วยงานภายในกระทรวงคมนาคม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และหัวหน้ากลุ่มงานภายในท่าอากาศยาน เป็นคณะกรรมการ โดยให้ร่วมกันเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการให้บริการท่าอากาศยาน เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ปรับปรุง ส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการท่าอากาศยานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นายดนัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการดำเนินกิจกรรม “สนามบินมีชีวิต” ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การแสดงพื้นบ้าน และการแสดงท้องถิ่นที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัด นอกจากนี้ ยังบูรณาการความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก และบริษัท ขนส่ง จำกัด อำนวยความสะดวกผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว ในการพิจารณาเส้นทางและจัดรถโดยสารสาธารณะ สำหรับบริการผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่าง ๆ ให้ได้รับความสะดวก มีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการ และสอดคล้องกับตารางบิน โดย ทย. คาดว่า หลังจากที่สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดให้บริการแล้ว จะทำให้ในปี 2568 ท่าอากาศยานนครพนมมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 18.48% และมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 32.99%