ผู้ชมทั้งหมด 120
กบน. ปรับอัตราเงินชดเชยน้ำมันดีเซล เพิ่มอีก 30 สต./ลิตร ตรึงราคาขายปลีก ต่อเนื่องครั้งที่ 5 บรรเทาผลกระทบประชาชนจากวิกฤตสงครามในตะวันออกกลาง มีผล 24 มิ.ย.2568

(วันที่ 23 มิถุนายน 2568) นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพิลง (กบน.) มีมติปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับน้ำมันดีเซล เพิ่มอีก 30 สตางค์/ลิตร จากเดิมชดเชยอยู่ที่ 35 สตางค์/ลิตร เพิ่มชดเชยเป็น 65 สตางค์/ลิตร เพื่อคงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาให้คงอยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนจากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และคงความผันผวนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 มิ.ย.2568) น้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 76.85 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซล และราคาน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 97.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และ 89.81 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามลำดับ
การตรึงราคาน้ำมันครั้งนี้ นับเป็นมติครั้งที่ 5 ของ กบน.ภายในเดือนมิถุนายน 2568 (ระหว่างวันที่ 16-23 มิ.ย.2568) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ กบน.ในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันดีเซล ซึ่งมีความจำเป็นต่อภาคขนส่ง และการใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชน ส่งผลให้รายรับของกองทุนน้ำมันฯ จากกลุ่มน้ำมันดีเซล จะติดลบ อยู่ที่ประมาณวันละ 40.75 ล้านบาท ส่วนรายรับจากกลุ่มน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ประมาณวันละ 76.13 ล้านบาท (รายละเอียดอยู่ในตาราง)

นายพรชัย กล่าวถึงบทบาทของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า “แม้รายรับจากการจัดเก็บเงินน้ำมันดีเซลจะเริ่มติดลบ แต่ กบน.ยังคงเดินหน้าใช้กลไกของกองทุนน้ำมันฯ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อบริหารจัดการราคาพลังงานภายในประเทศให้มีเสถียรภาพสูงสุด พร้อมบริหารจัดการด้านการเงิน และสภาพคล่องอย่างรอบคอบ ภายใต้กรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดูแลประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม โดย กบน.จะติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์และราคาน้ำมันโลกอย่างใกล้ชิด”