ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้ ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสี 20 บาทตลอดสาย ลงทะเบียนรับสิทธิ์ ส.ค. 68

ผู้ชมทั้งหมด 152 

ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้ ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสี 20 บาทตลอดสาย หลังครม.ไฟเขียวนโยบาย เปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ ส.ค. 68 ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” มั่นใจประชาชน-ประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ มาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อต้องการลดราคาค่าพลังงานและ สาธารณูปโภค พร้อมกับผลักดันการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ รวมถึงลดภาระค่าเดินทาง ทั้งนี้นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จัดอยู่ในนโยบายเร่งด่วน ที่จะดำเนินการทันที เพื่อให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสามารถครอบคลุมโครงข่ายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมั่นใจว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า เนื่องด้วยผู้ให้บริการรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีรูปแบบสัญญาสัมปทานและสัญญาจ้างเดินรถที่มีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขทางธุรกิจแตกต่างกัน จึงได้กำหนดให้ประชาชนลงทะเบียนตามเงื่อนไขที่กำหนดบนแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” เพื่อรองรับการใช้งานตามโนบาย  โดยเงื่อนไขการลงทะเบียนนั้นเพื่อยืนยันตัวบุคคลที่มีสัญชาติไทย โดยระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่ลงทะเบียน) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้า ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ทั้งนี้ บัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิโดยอัตโนมัติ เมื่อใช้งานหลังจากเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ครอบคลุมทั้งโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบไปด้วย รถไฟฟ้าสายสีเขียว,สีทอง,สีเหลือง,สีชมพู,สีน้ำเงิน,สายสีม่วง,สายสีแดง และ สายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL)

ทั้งนี้การใช้บริการรูปแบบบัตร Rabbit Card ใช้ได้กับสายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless (Visa/Mastercard) ใช้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, ARL (ไม่รวมสีทองและสีเขียว)คาดว่าในอนาคตจะมีการเปิดระบบสแกน QR Code ในมือถือแทนการใช้บัตร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน

โดยมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย จะครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 279.84 กิโลเมตร 194 สถานี ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวมีกรอบระยะเวลาการดำเนินมาตรการ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ถึง 30 กันยายน 2569 หรือตามมติครม.

สำหรับแนวทางการชดเชยรายได้ค่าโดยสารจากการดำเนินมาตรการ จะมาจากกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม หรือแหล่งเงินอื่นที่เหมาะสม ทั้งนี้ยังได้ประมาณการผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวในช่วง 1 ปี ในเชิงปริมาณและมูลค่าจากจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่ได้รับผลประโยชน์ จะประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านเศรษฐกิจ ประเมินจากการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้รถ 7,360.43 ล้านบาท 2. ด้านสังคม ประเมินจากค่าความสุข และ การลดมูลค่าความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ 2,612.02 ล้านบาท และ 3. ด้านสิ่งแวดล้อม ประเมินจากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 77.28 ล้านบาท รวม ทั้ง 3 ด้านประเมินเป็นประโยชน์ในงบประมาณ 2569 รวม 10,049.73 ล้านบาท

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ภายในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ค่าโดยสาร 20 บาท ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” และภายใน 1 ตุลาคม 2568 จะเริ่มดำเนินมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า สูงสุด 20 บาทตลอดสายตามนโยบายรัฐบาล และภายหลังจากนั้นจะมีกระบวนการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้โครงสร้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย จะเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการสาธารณะ ลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน ช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการสาธารณะของรัฐเพื่อเดินทางถึงปลายทางด้วยระบบรถไฟฟ้า ที่มีความปลอดภัย สะดวก ตรงเวลา และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในราคาค่าโดยสารที่เข้าถึงได้ตามนโยบายของรัฐบาล เกิดการใช้ความจุของโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเกิดความคุ้มค่าจากผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางราง ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง ลดความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ และเพิ่มมูลค่าความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นส่วนสนับสนุนการลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน ลดปัญหาการจราจรติดขัด และลดการใช้พลังงานน้ำมันลดปริมาณมลพิษจากการจราจร ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมให้คุณภาพอากาศในพื้นที่ตามแนวสายทางและข้างเคียงให้ดีขึ้น