ผู้ชมทั้งหมด 116
กระทรวงพลังงาน ร่วมหารือกับ คปภ. วางแนวทางช่วยเหลือเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน ต.บ้านผือ.อ.กันทรลักษ์ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการยิงลูกระเบิด BM21 จากทางฝั่งกัมพูชา ชี้ บริษัทประกันต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ภัยสงคราม พร้อมเร่งประสาน OR เข้าช่วยเหลือ
วันนี้ (4 ส.ค.2568) พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ได้รับมอบหมายจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้รับหนังสือขอความอนุเคราะห์และขอความเป็นธรรม จากนางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ตำบลบ้านผือ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการยิงลูกระเบิด BM21 ที่ถูกยิงจากฝั่งกัมพูชา เป็นผลให้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก

พันเอก เฟื่องวิชชุ์ กล่าวว่า แม้ กระทรวงพลังงาน จะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรง แต่กระทรวงพลังงาน โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ดูแลและเป็นตัวกลางในการประสานงานและหารือกับทาง คปภ. และผู้บริหารของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) ในการหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน
“ผมของแสดงความเสียใจกับเจ้าของสถานีบริการน้ำมันและผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด หลังจากที่ได้ลงพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งผมก็ได้รับมอบหมายจาก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ติดตามช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในส่วนของสถานีบริการน้ำมันที่ได้รับผลกระทบนั้น ผมได้หารือกับทาง คปภ. ซึ่งในเบื้องต้นทาง คปภ. ได้ยืนยันว่า บริษัทประกันต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการปะทะ ไม่ใช่ภัยสงคราม รวมทั้งจะประสานกับทาง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR)ในการหาแนวทางการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็ว”

ด้านนายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ คปภ. กล่าวว่า จากการตรวจสอบกรมธรรม์ที่ทางเจ้าของสถานีบริการได้ทำไว้กับบริษัทประกันนั้น แม้ในกรมธรรม์จะระบุว่าไม่คุ้มครองภัยจากภัยสงครามหรือการรุกราน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ยังไม่ใช่ภัยจากสงคราม เป็นเพียงการปะทะเท่านั้น จึงถือว่ากรมธรรม์ยังต้องคุ้มครองและจ่ายค่าสินไหมให้กับผู้ได้รับความเสียหาย

นางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ แต่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมันและร้านสะดวกซื้อของตนได้รับผลกระทบอย่างมาก ต้องปิดสถานีบริการมากกว่า 3 เดือน มูลค่าความเสียหายกว่า 21 ล้านบาท ซึ่งสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระเงินกู้กับธนาคาร


