ผู้ชมทั้งหมด 83
กบน. ลดจัดเก็บเงินผู้ใช้ดีเซล ส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลง 25 สตางค์ต่อลิตร เหลือ 15 สตางค์ต่อลิตร เหตุราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวนขยันขึ้นเล็กน้อย ไม่กระทบราคาขายปลีก ส่งผลรายรับลดลง อยู่ที่ 30 ล้านบาทต่อวัน ด้านสถานะกองทุนน้ำฯ ติดลบเหลือ 28,526 ล้านบาท
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่กลับมาผันผวนปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยล่าสุด ณ วันที่ 4 ส.ค. 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 70.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาเพิ่มขึ้น 0.04 เหรียญหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 67.42 เหรียญหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 69.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จึงมีการประชุมเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2568 โดยมีมติปรับลดการเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เพื่อส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 25 สตางค์ต่อลิตร เหลือเพียง 15 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมเรียกเก็บเงินผู้ใช้ดีเซล และดีเซล B20 อยู่ 40 สตางค์ต่อลิตร ส่วนผู้ใช้ดีเซลเกรดพรีเมียม เหลือ 1.65 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ 1.90 บาทต่อลิตร หลังราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับขึ้นเล็กน้อย
ส่วนกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ยังเรียกเก็บเงินเพื่อส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เท่าเดิม โดยผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ถูกเรียกเก็บ 3 บาทต่อลิตร , น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เรียกเก็บ 1.90 บาทต่อลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เรียกเก็บ 3.60 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯดังกล่าว ส่งผลให้ กองทุนฯ มีรายรับลดลง 30.89 ล้านบาทต่อวัน จากเดิมมีรายรับ 173.52 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 5,205 ล้านบาทต่อเดือน) เหลือรายรับ 142.63 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 4,278 ล้านบาทต่อเดือน) ซึ่งรายรับนี้มาจากการเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันทุกชนิดได้ 122.23 ล้านบาทต่อวัน และผู้ประกอบการโรงแยกก๊าซ 20.40 ล้านบาทต่อวัน

ขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ณ วันที่ 3 ส.ค. 2568 กองทุนฯ ติดลบเหลือ 28,526 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน มีรายรับเป็นบวกอยู่ 15,059 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบรวมถึง 43,585 ล้านบาท
ด้านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รายงาน สถานการณ์ค่าการตลาดน้ำมันที่ผู้ค้าน้ำมันเรียกเก็บจากประชาชน ล่าสุด ณ วันที่ 4 ส.ค. 2568 เปลี่ยนแปลง ดังนี้ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถูกเรียกเก็บค่าการตลาด 3.22 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดที่ 2.88 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 2.94 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 2.99 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 4.25 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 1.88 บาทต่อลิตร
ขณะที่ ค่าการตลาดเฉลี่ย ระหว่าง 1-4 ส.ค. 2568 อยู่ที่ 2.16 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสม 1.5-2 บาทต่อลิตร)
