AOT ลั่นกลางเดือน ก.ย.นี้ ผลการศึกษาสัญญาดิ้วตี้ฟรีเสร็จ ภายใน ต.ค. 68 ต้องจบปัญหา  

ผู้ชมทั้งหมด 155 

AOT ลั่นกลางเดือน ก.ย.นี้ ผลการศึกษาสัญญาดิ้วตี้ฟรีเสร็จ พร้อมเสนอบอร์ด ปลายเดือนก.ย. ต้นเดือน ต.ค. 68  เร่งคุย “คิง เพาเวอร์” จบปัญหาภายในเดือนตุลาคมนี้ ยันทอท.ต้องได้ประโยชน์สูงสุด  

น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจ้างที่ปรึกษาในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT ว่า จากกรณีที่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ได้มีหนังสือถึง AOT เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร 5 ท่าอากาศยาน ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ นั้นในขณะนี้ที่ปรึกษา โดยมหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษา ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนกันยายน 2568 พร้อมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท AOT (บอร์ด) ได้ประมาณปลายเดือนกันยายน หรือต้นเดือนตุลาคม 2568 ดังนั้นการเจรจากับ บริษัท คิง เพาเวอร์ฯ เพื่อหาข้อสรุปเรื่องสัญญาดิ้วตี้ฟรีคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายเดือนตุลาคม 2568

โดย AOT จะเลือกแนวทางที่ดีที่สุด เป็นประโยชน์สูงสุดกับ AOT และผู้ถือหุ้น และต้องเป็นไปตามธรรมาภิบาล ซึ่งข้อสรุปของผลการศึกษาอาจเป็นได้ทั้งการยกเลิกสัญญา หรือปรับแก้ไขสัญญา แต่ก็ต้องรอผลการศึกษาก่อน ซึ่งผลการศึกษาออกมาแล้วนำเสนอให้คิง เพาเวอร์ฯ พิจารณาหากคิง เพาเวอร์ไม่ยอมรับข้อเสนอ AOT ก็พร้อมที่จะดำเนินการยกเลิกสัญญา อย่างไรก็ตามแม้จะมีการยกเลิกสัญญา เมื่อ AOT ดำเนินการเปิดประกวดราคาใหม่ คิง เพาเวอร์ฯ ก็ยังสามารถยื่นข้อเสนอประกวดราคาใหม่ได้ ยกเว้นกรณีที่เป็นคดีความต่อกันจะไม่สามารถให้เข้าประมูลได้ ทั้งนี้ตนยอมรับว่า ไม่ว่าจะยกเลิกสัญญาหรือปรับแก้ไขสัญญาก็กระทบต่อ AOT และกระทบกับผู้โดยสารด้วย

“ผลการศึกษาอาจนำไปสู่การยกเลิกสัญญาหรือการปรับเปลี่ยนสัญญา AOT ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงผลการศึกษาและเปิดโอกาสให้คณะกรรมการและที่ปรึกษามีอิสระในการวิเคราะห์สัญญาอย่างเต็มที่” น.ส.ปวีณา กล่าว

น.ส.ปวีณา กล่าวอีกว่า AOT ตระหนักดีว่าการยกเลิกสัญญาอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง ไม่ใช่แค่กับ คิง เพาเวอร์ แต่ยังรวมถึงผู้ประกอบการรายอื่น ๆ และผู้โดยสารด้วย อย่างไรก็ตาม AOT ยืนยันว่าจะยึดหลักการบริหารงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้โดยสารและผู้ถือหุ้น ส่วนสถานะการชำระหนี้ของ คิง เพาเวอร์ นั้นปัจจุบันมีทั้งส่วนที่ค้างชำระและส่วนที่ชำระแล้ว โดยยังคงดำเนินการตามสัญญาปกติและยังไม่มีการลดหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาใดๆ ตามที่เป็นข่าว