สนข.เปิดตัวโครงการศึกษาเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เพิ่มการให้บริการ ลดความซ้ำซ้อน ลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาเดินทาง ตั้งเป้าลดรถส่วนตัว แก้ปัญหารถติด ลดมลพิษ และยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นประธานการสัมมนาแนะนำโครงการศึกษาพัฒนาระบบการคมนาคมเพื่อเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่อเนื่อง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสุรพงษ์ เมี้ยนมิตร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร นายปริญญา ถนัดทาง ผู้อำนวยการกองจัดระบบการจราจรทางบก ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรพัฒนาเอกชน สื่อมวลชนและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสัมมนาดังกล่าว

นายปัญญา กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ดำเนินการศึกษาพัฒนาระบบการคมนาคมเพื่อเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่อเนื่อง กรุงเทพมหานคร มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะตามเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและปัจจุบันการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่อเนื่อง มีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 18.4 คิดเป็น 5.29 ล้านคน – เที่ยว/วัน โดยแบ่งออกเป็นรถไฟฟ้า 5.4% หรือ 1.55 ล้านคน – เที่ยว/วัน รถโดยสารประจำทาง 6.4% หรือ 1.84 ล้านคน – เที่ยว/วัน และอื่น ๆ อีก 6.6% หรือ 1.89 ล้านคน – เที่ยว/วัน
ทั้งนี้โครงการจะดำเนินภายใต้กรอบแนวคิด 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) ความครอบคลุม ลดความทับซ้อนของรถโดยสารสาธารณะ และเพิ่มความครอบคลุมของโครงข่าย 2)การให้บริการและความเพียงพอ โดยเพิ่มความถี่ของรถโดยสาร เพิ่มจำนวนตู้ขบวนโดยสารจัดบริหารรถโดยสารด่วน (Express service) 3) การเข้าถึงการจัดบริการรถโดยสารประจำทางระบบเสริม (Feeder) มีอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม และ 4) การปรับปรุงทางเท้า การเชื่อมต่อ – มีจุดเชื่อมต่อและสิ่งอำนวยการเชื่อมต่อการเดินทาง (ITF) ลดเวลาในระบบเปลี่ยนถ่ายระบบเก็บค่าโดยสารที่ใช้ร่วมกันได้หรือระบบตั๋วร่วม
นายปัญญา กล่าวต่อว่า การศึกษาพัฒนาระบบการคมนาคมเพื่อเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่อเนื่อง ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันการใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้เป็นทางเลือกหลักของประชาชน เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หากสามารถลดจำนวนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลได้จะช่วยบรรเทาปัญหาที่หลากหลายในปัจจุบันลงได้ เช่น ช่วยบรรเทาปัญหาเรื่อง การจราจรหนาแน่นและติดขัดโดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะและสามารถส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับประชาชนในเขตเมือง
สำหรับการสัมมนาฯ ที่ สนข. จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อแนะนำโครงการศึกษาพัฒนาระบบการคมนาคมเพื่อเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่อเนื่อง และเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนเพื่อให้โครงการบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น จากการเดินทางแบบไร้รอยต่อให้สามารถเชื่อมโยงสถานที่ต่าง ๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะหลายรูปแบบ เพิ่มความสะดวก รวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายของประชาชนได้
ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนำมาซึ่งข้อเสนอแนะอันมีประโยชน์ในหลากหลายมิติรวมถึงแนวทางเชิงปฏิบัติที่จะได้รับการสนับสนุนในการช่วยผลักดันเพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของประเทศไทยก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน