“มัลลิกา” ย้ำบวท.เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเดินอากาศ สรรหา CEO คาดแต่งตั้งต.ค.นี้

Loading

มัลลิกา” ย้ำ บวท.ให้เดินหน้า พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับเที่ยวบิน เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการจราจรทางอากาศ ส่วนการสรรหา CEO คนใหม่ ต้องรอบอร์ดให้มีจำนวนครบ คาดแต่งตั้งเสร็จสิ้นภายในเดือนต.ค.นี้

นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่า ได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงคมนาคม ‘คมนาคมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับประชาชนทุกคน’ โดยมีแนวทางสำคัญ คือ 1.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการการเดินอากาศ นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการให้บริการจราจรทางอากาศ 2.ปรับปรุงเส้นทางบินและพัฒนาโครงสร้างห้วงอากาศ ให้สามารถรองรับปริมาณจราจรทางอากาศ ที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.บูรณาการแผนการดำเนินงาน แผนปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยี ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต สนามบินภูมิภาคต่าง ๆ และจัดเตรียมความพร้อมเพื่อให้บริการการเดินอากาศ ณ สนามบินอู่ตะเภา 4.วางรากฐานคมนาคมสำหรับอนาคต และ5. บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานการบิน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน

นางสาวมัลลิกา กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าเรื่อง  Sea Plane หรือ เครื่องบินน้ำนั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษา และเตรียมแผนการทดสอบการให้บริการ Sea Plane ในการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ปิด( Sand Box ) ที่จังหวัดภูเก็ต พังงา และตรัง ในเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ เพื่อดูเรื่องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หากไม่มีปัญหาก็น่าจะเริ่มเปิดให้บริการเพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางได้ช่วงกลางปีหน้า

นางสาวมัลลิกา กล่าวอีกว่า สำหรับกระบวนการสรรหา CEO บวท.คนใหม่นั้นยังไม่แล้วเสร็จ เพราะคณะกรรมการ (บอร์ด) บวท.ไม่ครบ เนื่องจากมีกรรมการบางคนลาออก และบางคนครบวาระ ทำให้บอร์ดที่มีทั้งหมด 11 คนเหลืออยู่เพียง 6 คนเท่านั้นจึงยังไม่สามารถประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญต่างๆได้ จึงจำเป็นต้องแต่งตั้งบอร์ดให้ครบก่อน ซึ่งตนกำลังพิจารณารายชื่อผู้เหมาะสมอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ จากนั้นจึงจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาผู้ที่เหมาะสมทึ่จะดำรงตำแหน่ง CEO ได้

นายสุรชัย หนูพรหม รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า  บวท.จะนำนโยบายและแนวทางดังกล่าวมาดำเนินการ โดยมีแผนจะปรับปรุงพัฒนาระบบ Thailand Modernization CNS/ATM System และระบบสำรองฉุกเฉิน รวมถึงออกแบบพื้นที่ห้วงอากาศ เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจราจรทางอากาศ เพิ่มความสามารถในการรองรับเที่ยวบิน พร้อมทั้งพัฒนาระบบติดตามอากาศยาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดทางการบิน ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสายการบินผู้ใช้บริการแล้ว ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีการบินของโลก