“พิพัฒน์” ดึงโปรเจกต์ทางด่วน “กะทู้-ป่าตอง” จ.ภูเก็ต ให้ ทล. ทำแทน กทพ.

Loading

พิพัฒน์” ดึงโปรเจกต์ทางด่วน “กะทู้-ป่าตอง” จ.ภูเก็ต ให้ ทล. ทำแทน กทพ. พร้อมปรับรูปแบบก่อสร้างลดขนาดอุโมงค์เหลือ 10 เมตร หวังช่วยลดงบลงทุน เร่งหาข้อสรุปสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอ ครม. ภายใน พ.ย. 68 มั่นใจได้สร้างในรัฐบาลนี้ หากแล้วเสร็จให้ประชาชนใช้ฟรี

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการทางพิเศษระยะที่ 1 ช่วงกะทู้–ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กิโลเมตรนั้นตนได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับรูปแบบโครงการใหม่ และให้โอนความรับผิดชอบมาอยู่ภายใต้กรมทางหลวง (ทล.) จากที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งออกแบบให้เป็นทางพิเศษ (ทางด่วน) และเก็บค่าผ่านทาง โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่จะเป็นทางหลวงทั่วไป และจะมีการไม่เก็บค่าผ่านทาง ซึ่งจะเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องการลดภาระค่าครองชีพประชาชน

การดำเนินการโอนย้ายความรับผิดชอบให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ ทล. แล้วการปรับรูปแบบการลงทุนและการก่อสร้างใหม่นั้นตนได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปหารือและเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เพื่อขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการฯ โดยจะใช้ผลการศึกษาเดิมของ กทพ. เป็นฐานข้อมูลหลัก คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า เพื่อที่จะได้เร่งนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 โดยการดำเนินการลงทุนโครงการนี้จะต้องให้สามารถดำเนินการได้ภายในรัฐบาลนี้  

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างการบริหารและรูปแบบการก่อสร้างในครั้งนี้ยังได้มีการปรับขนาดอุโมงค์จากเดิมที่ออกแบบไว้เส้นผ่านศูนย์กลาง 17 เมตร เหลือ 10 เมตร เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และมาตรฐานความปลอดภัยทางวิศวกรรม ช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งยังเป็นการตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่ที่จะได้ใช้ถนนดีมีความปลอดภัย และไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง  

อย่างไรก็ตามการปรับขนาดอุโมงค์นั้นยืนยันว่าจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเพิ่มเติมจากรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เดิม เนื่องจากโครงสร้างและพื้นที่ก่อสร้างลดลงทำให้ผลกระทบโดยรวมยิ่งน้อยลง ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดที่จะปรับปรุงการออกแบบอุโมงค์ให้รถจักรยานยนต์และรถยนต์ใช้ช่องทางเดียวกัน เพราะอุโมงค์มีระยะทางเพียงประมาณ 1.85 กิโลเมตรเท่านั้น  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการทางพิเศษ (ทางด่วน) ช่วงกะทู้–ป่าตอง ระยะที่ 1 ระยะทาง 3.98 กิโลเมิตรมีกรอบวงเงินลงทุนรวม 16,757 ล้านบาท แบ่งเป็นงบก่อสร้าง 10,965 ล้านบาท และงบเวนคืน 5,792 ล้านบาทนั้นเมื่อวันที่ 26  เดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมาครม. มีมติอนุมัติให้ ปรับรูปแบบการลงทุนของโครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 จากการให้เอกชนร่วมลงทุนตามติ ครม.เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 เป็นการให้ กทพ. ดำเนินโครงการการจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้าง (Design & Build)

ปัจจุบันโครงการอยู่ในขั้นตอนจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน จัดหาผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเตรียมจะเปิดประกวดราคาในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะนี้ กทพ. ได้เวนคืนที่ดินแล้วราว 75% และเตรียมเริ่มก่อสร้างใน เม.ย. 2569 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน มี.ค. 2573 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการได้ใน เม.ย. 2573  

หากมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการใหม่แล้วโอนให้ ทล.เป็นผู้ดำเนินการนั้นอาจจะทำให้การดำเนินการลงทุนโครงการเกิดความล่าช้าออกไปอีกจากปัจจุบันก็มีความล่าช้าอยู่แล้ว โดยโครงการทางด่วนภูเก็ตนั้นเริ่มมีการศึกษาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนและโอนให้ ทล. เป็นผู้ดำเนินการแทนกทพ.นั้นต้องรอนโยบายจากรัฐบาลให้มีความชัดเจนก่อน ขณะเดียวกันก็ต้องฟังเสียงประชาชนชาวภูเก็ตด้วยว่าต้องการอย่างไร