ครม. ไฟเขียวไทยยกระดับ NDC 3.0 ลุยขับเคลื่อน Net Zero 2050

Loading

ครม. ไฟเขียว ไทยยกระดับ NDC 3.0 เร่งขับเคลื่อน Net Zero 2050 ลดโลกร้อน ครอบคลุม 5 สาขาหลักพลังงาน,อุตสาหกรรม,ของเสีย,ป่าไม้ และการใช้ประโยชน์ที่ดิน

น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ (4 พ.ย.2568) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฯ โดยระบุว่า ครม.เห็นชอบตามที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ นำเสนอ (ร่าง) การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับที่ 2 หรือ NDC 3.0 ของประเทศไทย เพื่อจัดส่งสำนักเลขาธิการกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในการประชุมรัฐภาคี (COP 30) ที่บราซิล เดือนพ.ย.2568 สาระสำคัญคือ ประเทศไทยยกระดับเป้าหมายการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยยสำคัญ โดยตั้งเป้าควบคุมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิไม่เกิน 152 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ ภายในปี 2578 ซึ่งลดลง 47% จากระดับปีฐาน 2562 ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ปี2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

ทั้งนี้ การดำเนินการภายใต้ NDC 3.0 ครอบคลุม 5 สาขาหลัก ได้แก่ พลังงาน,อุตสาหกรรม,ของเสีย,ป่าไม้ และการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดย 70% ของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเกิดจากศักยภาพในประเทศ และอีก30% จะขอรับการสนับสนุนจากต่างประเทศทั้งในด้านเทคโนโลยีสะอาด เงินลงทุน และนวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ เน้นย้ำว่า ร่างการมีส่วนร่วมนี้ฯ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ข้อที่ 13 โดยนโยบายรัฐบาลชุดนี้ เร่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม การลดคาร์บอนต้องไม่เป็นภาระต่อประชาชนและภาคธุรกิจ แต่ต้องมีโอกาสใหม่ในการยกระดับอุตสาหกรรมสีเขียว การจ้างงานสีเขียว และความร่วมมือกับนานาชาติ

รัฐบาลยืนยันว่า การจัดทำ NDC 3.0 คือการแสดงเจตจำนงอย่างมั่นคงของประเทศไทยในการร่วมแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลกอย่างรับผิดชอบ ขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และยืนยัดบนเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน