![]()
“พิพัฒน์” เดินหน้ากระชับสัมพันธ์ไทย รัสเซีย ร่วมผลักดันความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่ง สร้างโอกาสใหม่เพื่อประชาชน – เปิดเส้นทางบินตรง กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อม แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระบบราง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับ นายเยฟเกนี โทมิคิน (H.E. Mr. Evgeny Tomikhin) เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย และคณะ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง และหารือแนวทางความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศ โดยมี นายปัญญา ชูพานิช รองปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้แทนกองต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมการหารือ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม



นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งอย่างครบวงจรเพื่อสร้างรายได้ ลดรายจ่ายให้พี่น้องประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไทยและสหพันธรัฐรัสเซียมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่แน่นแฟ้นและยาวนานกว่า 128 ปี และได้พัฒนาความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม การศึกษา และการท่องเที่ยว ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพ ความไว้วางใจ และความร่วมมือที่ใกล้ชิด
โดยไทยและรัสเซียได้ร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่งผ่านบันทึกแสดงเจตจำนงระหว่างกระทรวงคมนาคมของไทยและของรัสเซีย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบราง การขนส่งทางทะเลและการบิน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การฝึกอบรมวิชาชีพ และประสานความร่วมมือในเวทีพหุภาคี อาทิ ESCAP APEC และอาเซียน ซึ่งกระทรวงฯ อยู่ระหว่างพิจารณาเดินทางไปร่วมพิธีลงนามบันทึกดังกล่าว ณ สหพันธรัฐรัสเซีย ในโอกาสอันเหมาะสมต่อไป
ด้านนายเยฟเกนี โทมิคิน กล่าวว่า รัสเซียให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านคมนาคมกับไทยมาอย่างต่อเนื่อง และต้องการขยายความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อผลักดันความร่วมมือให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ รัสเซียมีความต้องการให้ไทยพิจารณาเปิดเส้นทางบินตรงสู่สหพันธรัฐรัสเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศหลังจากได้ยุติไปจากเหตุการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 นอกจากนี้ ยังต้องการหารือกับการรถไฟแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับความร่มมือด้านเทคโนโลยีระบบรางและการซ่อมบำรุง โดยเชื่อมั่นว่ารัสเซียมีศักยภาพและความเชี่ยวชาญสามารถสนับสนุนการพัฒนาระบบรางของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากฝ่ายไทยในประเด็นดังกล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยมีนโยบายเปิดกว้างต่อเทคโนโลยีจากทุกประเทศ พร้อมเปิดรับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม ไทยมีข้อกังวลเรื่องความกว้างของระบบรางที่มีขนาดเพียง 1 เมตร จึงขอให้ฝ่ายรัสเซียพิจารณาปรับเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับมาตรฐานของไทยด้วย นอกจากนี้ ไทยยังมีความสนใจที่จะหารือในเทคโนโลยีการซ่อมบำรุงระบบราง เนื่องจากเป็นประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญและต้องการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น