“พิพัฒน์” แจงทางด่วนกระทู้-ป่าตองให้กทพ.สร้างตามเดิม จ่อชงครม.ขอยกเว้นค่าผ่านทางช่วงอุโมงค์ลอด เร่งเปิดประมูลต้นปี 69 เชื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมูลค่าให้จังหวัดภูเก็ต
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ตช่วงกะทู้ – ป่าตองว่า จากการหารือร่วมกับนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ข้อสรุปว่า กระทรวงคมนาคมจะดำเนินโครงการดังกล่าวตามที่ กทพ.เคยนำเสนอไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น และได้มอบหมายให้ กทพ.เร่งดำเนินกระบวนการประกวดราคาให้เร็วที่สุด คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 69 จากนั้นน่าจะเปิดให้บริการได้ในอีก3-4 ปีข้างหน้า
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ขอยืนยันไปถึงชาวจังหวัดภูเก็ต และผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ตว่า โครงการดังกล่าวจะก่อสร้างแน่นอน ไม่มีการชะลอ ยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่กำลังพิจารณาทบทวนในรายละเอียดเรื่องการเก็บค่าผ่านทาง โดยเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ กทพ.นำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) กทพ. โดยเร็วที่สุด ภายในเดือน พ.ย.นี้ ว่ากระทรวงคมนาคมขอความร่วมมือจากบอร์ด กทพ.ว่าจะสามารถยกเว้นค่าผ่านทางเฉพาะในส่วนของการผ่านอุโมงค์เท่านั้น เพราะเป็นเจตนาดีของรัฐบาล โดยนายอนุมิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนและเปรียบเสมือนเป็นการเพิ่มรายได้ ให้กับพี่น้องชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว หากบอร์ด กทพ.อนุมัติการยกเว้นค่าผ่านทาง ก็จะส่งเรื่องมายังกระทรวงคมนาคมก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป
อย่างไรก็ตามการยกเว้นค่าผ่านทางหรือไม่ขึ้นอยู่กับการหารือของ กทพ.กับกระทรวงการคลังว่าจะสามารถจัดหางบประมาณมาดำเนินการ หรือมีแนวทางที่จะทำได้บ้าง เพราะนโยบายของนายกรัฐมนตรีและกระทรวงคมนาคมชัดเจนว่าต้องการให้ยกเว้นค่าผ่านทางเฉพาะช่วงอุโมงค์ให้กับประชาชน
ส่วนทางยกระดับในระยะที่ 2 จะยังคงเก็บค่าผ่านทางตามปกติ เนื่องจากผู้ใช้ถนนสามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นทางยกระดับหรือใช้ถนนปกติ ส่วนข้อกังวลว่าการก่อสร้างอุโมงค์และมีการเปลี่ยนแปลงแบบจะทำให้โครงการล่าช้าออกไป 3-4 เดือนนั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเพราะกระทรวงคมนาคมให้กทพ.ดำเนินการตามแผนงานเดิม แน่นอน
ส่วนแนวคิดที่จะให้กรมทางหลวง(ทล.) ดำเนินการแทนกทพ.นั้นเพราะคิดว่าทล.มีงบประมาณของตัวเอง ซึ่งไม่จำเป้นต้องกระทบกับ กทพ.และเจตนาดีคือ หากทล.ดำเนินการก็ไม่ต้องเก็บค่าผ่านทาง แต่หากเป็นกทพ.ต้องมีกระบวนการขอยกเว้น หากเป็นไปได้จึงอยากใช้วิธีที่สะดวก แต่เมื่อพิจารณาแล้วเกิดความล่าช้ากว่าเพราะต้องทำอีไอเอใหม่ก็เลือกเดินหน้าตามเดิม เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ โดยกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะเดินหน้าเต็มที่ เพื่อให้ภูเก็ตยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่มีระบบคมนาคมสะดวก ปลอดภัย และรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคมของจังหวัดภูเก็ตอย่างครบวงจร โดย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นหน่วยงานดำเนินการ ซึ่งโครงการแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้–ป่าตอง ระยะทางประมาณ 3.98 กิโลเมตร ระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่–เกาะแก้ว–กะทู้ ทางยกระดับต่อเนื่อง ระยะทางประมาณ 30.6 กิโลเมตร ซึ่งโครงการผ่านการศึกษาความเป็นไปได้และรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งเป็นโครงการสมัยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด และลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งบนเส้นทางหลักเชื่อมสนามบินภูเก็ตกับป่าตอง.