“พลังงาน” กระชับความร่วมมือ”เอกชนสหรัฐ” พัฒนาพลังงานไทยและอาเซียน

Loading

กระทรวงพลังงาน เน้นย้ำต่อยอดการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนสหรัฐ พัฒนาภาคพลังงานไทยและอาเซียน มุ่งสู่พลังงานสะอาด ในการหารือร่วมกับคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน (USABC)

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2568 นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในการประชุมหารือร่วมกับคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน (U.S. – ASEAN Business Council: USABC) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและต่อยอดแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยกับภาคเอกชนของสหรัฐอเมริกา โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาพลังงานสะอาดที่มีความมั่นคงและยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน โดยมีผู้แทนจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมธุรกิจพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และบริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) เข้าร่วมในการประชุมดังกล่าวด้วย

นาย Jack Myint ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา – อาเซียน ได้นำคณะนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ อาทิ The Asia Group, BowerGroupAsia, Boeing, Cargill, Chevron, Cheniere Energy, ConocoPhillips, Google, Guardian Glass และ LubriZol ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และหารือประเด็นด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทสหรัฐฯ ในประเทศไทย โดย USABC ได้เน้นย้ำความมุ่งมั่นในการแสวงหาโอกาสและขยายธุรกิจในประเทศไทยและอาเซียน พร้อมทั้งยืนยันความพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายภาครัฐด้านพลังงานของไทย และพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยท่ามกลางความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศและความท้าทายของภาคพลังงานในปัจจุบัน

ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับแนวโน้มและทิศทางนโยบายด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทสหรัฐฯ ในประเทศไทย อาทิ การซื้อขายก๊าซธรรมชาติ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เทคโนโลยีเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) โครงการสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าโดยตรง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และเทคโนโลยีดักจับและใช้ประโยชน์จากคาร์บอน (CCS/CCUS) รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านพลังงานที่ทันสมัยและการพัฒนากฎระเบียบเพื่อเอื้อต่อการลงทุนด้านพลังงานสะอาดในประเทศไทย เป็นต้น

โดยฝ่ายไทยได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายด้านพลังงานตามแผนพลังงานแห่งชาติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ที่มีความท้าทายมากขึ้นภายในปี 2050 และพร้อมเปิดรับความร่วมมือกับภาคเอกชนสหรัฐฯ ในโครงการด้านพลังงานสะอาดและคาร์บอนต่ำ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและการเติมโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป