“บางกอกแอร์เวย์ส” หัวเรือใหญ่จัดประชุมสามัญใหญ่ สมาคมสายการบินเอเชียแปซิฟิก

Loading

บางกอกแอร์เวย์ส” หัวเรือใหญ่จัดประชุมสามัญใหญ่ สมาคมสายการบินเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 69 ร่วมพัฒนาอนาคตการบินในภูมิภาค ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสภาวะการค้าโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่โรงแรม Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมใหญ่สมาคมสายการบินเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 69 (AAPA 69th Assembly of Presidents) จัดโดยบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ในฐานะประธานสมาคมสายการบินแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Association of Asia Pacific Airlines: AAPA) ประจำปี 2568 เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สามัญของสมาคมสายการบินแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 69 (AAPA 69th Assembly of Presidents) ระหว่างวันที่ 14–15 พฤศจิกายน 2568

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยได้ตอนรับทุกท่านสู่กรุงเทพมหานคร ในการประชุมใหญ่ของสมาคมสายการบินเอเชียแปซิฟิก ประเทศไทยพร้อมยืนเคียงข้างผู้ประกอบการด้านการบินจากทั่วภูมิภาค เพื่อร่วมกำหนดทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมการบินที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกเข้าด้วยกัน ซึ่งอุตสาหกรรมการบิน ไม่ได้เป็นเพียงภาคธุรกิจ แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของเศรษฐกิจโลกและการเติบโตของเอเชียแปซิฟิกจะยิ่งมีพลัง เมื่อภาคการบินของเรามีความเข้มแข็ง และเชื่อมโยงถึงกันอย่างแท้จริง รัฐบาลไทยจึงมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเดินหน้า “ยุทธศาสตร์ Skyconomy”ซึ่งมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค ทั้งในด้านผู้โดยสาร การขนส่งสินค้า การซ่อมบำรุงเครื่องบิน และการพัฒนานวัตกรรมการบินสมัยใหม่ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาคโดยรวม

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนโครงการสำคัญหลายด้าน อาทิ การขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (East Expansion) การพัฒนาดอนเมือง ระยะที่ 3 เพื่อรองรับผู้โดยสารกว่า 40 ล้านคนต่อปี การยกระดับท่าอากาศยานภูเก็ต เชียงใหม่ และอู่ตะเภา การพัฒนาโครงการ MRO และศูนย์ซ่อมอากาศยานมาตรฐานสากล ซึ่งโครงการเหล่านี้สะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการองรับผู้โดยสารกว่า 200 ล้านคนต่อปี ในอนาคตอันใกล้ และตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะจุดเชื่อมโยงสำคัญ ของการเดินทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

สำหรับในปีนี้ หนึ่งในหัวข้อสำคัญของการประชุม AAPA คือ “ห่วงโซ่อุปทานด้านการบิน” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดหาอะไหล่ เครื่องยนต์ และการซ่อมบำรุง เครื่องบิน ท่ามกลางความท้าทายของโลกยุคใหม่ ประเทศไทยพร้อมเป็น “พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์” ของสายการบิน โดยมีศักยภาพทั้งด้านอุตสาหกรรม การบริการ แลพบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเปิดกว้างให้ภาคเอกชนจากทั่วโลกลงทุนใน MRO Engine Center ระบบโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน

นอกจากโครงสร้างพื้นฐานแล้ว รัฐบาลไทยยังให้ความสำคัญกับ “การพัฒนาบุคลากรการบิน” เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตผ่านความร่วมมือระหว่างสถาบันการบินพลเรือนกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สายการบินภายในประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ไอเคโอ (ICAO) และไออาตา (IATA) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพประเทศไทยให้เป็น Training Hub ของภูมิ ภาคอาเชียน

ขณะที่ในมิติของความยั่งยืน ประเทศไทยสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงการบินยั่งยืน หรือ แซฟ (SAF) การลดการปล่อยคาร์บอนในทุกขั้นตอนการบิน การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ และการปฏิบัติตามมาตรฐาน คอร์-เซีย (CORSIA) ของไอเคโอ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินให้เติบโตบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับทุกสายการบิน ทุกองค์กร และทุกประเทศเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมการบินเติบโตอย่างมั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืนต่อไป

ด้าน นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เปึนการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงจากสายการบินสมาชิกของ AAPA ได้ร่วมกันทบทวนภาพรวมของอุตสาหกรรมการบิน พร้อมทั้งเปิดเวทีให้ผู้บริหารจากสายการบินสมาชิกได้แลกเปลี่ยนมุมมองเชิงกลยุทธ์ และร่วมกันหาแนวทางรับมือกับความท้าทายด้านการปฏิบัติการ และการพัฒนาในอนาคตของภาคการบินในภูมิภาค ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสภาวะการค้าโลก โดยการประชุมให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน การเพิ่มขีดความสามารถและความยืดหยุ่นของบุคลากร ตลอดจนการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินอย่างยั่งยืน 

อีกทั้งยังเป็นเวทีสำคัญที่ผู้นำในอุตสาหกรรมการบินจากทั่วภูมิภาคมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง และกำหนดทิศทางอนาคตร่วมกัน ปีนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกกำลังเดินหน้าฟื้นตัวและปรับตัวสู่ยุคใหม่ เราจึงมุ่งมั่นที่จะใช้โอกาสนี้ในการผลักดันให้ภาคการบินของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน และมีความพร้อมรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

“ผมเชื่อมั่นว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีที่ก่อให้เกิดความร่วมมือและแนวคิดใหม่ ๆ ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของภูมิภาคให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง พร้อมยึดมั่นในคุณค่าด้านนวัตกรรม ความยั่งยืน และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อสร้างอนาคตการบินที่ดีกว่าสำหรับทุกคน” นายพุฒิพงศ์  กล่าว

ขณะที่ Mr. Subhas Menon, Director General, Association of Asia Pacific Airlines กล่าวว่า “การประชุม Assembly ครั้งนี้นับเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้นำสายการบินจากทั่วภูมิภาคได้ร่วมกันประเมิน สถานการณ์ล่าสุดของอุตสาหกรรมการบิน และกำหนดแนวทางเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนและความยืดหยุ่นในอนาคต แม้ภาวะเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกจะยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง แต่ความต้องการเดินทางจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง ประกอบกับศักยภาพทางเศรษฐกิจและโครงสร้างประชากรที่เอื้อต่อการเติบโต ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนแนวโน้มเชิงบวกของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปีหน้า

สำหรับการประชุมในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรระดับโลกในอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว รวมถึงหน่วยงานสำคัญของประเทศไทย อาทิ Airbus, Boeing, Rolls-Royce, Embraer, Amadeus, GE Aerospace, Pratt and Whitney, Osprey Flight Solutions, Avolon, Willis Lease Finance Corporation, PTT Oil and Retail Business Public Company Limited, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท รักษาความปลอดภัย เอเอสเอ็ม แมเนจเมนต์ จำกัด รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ซึ่งร่วมสนับสนุนความสำเร็จของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก