![]()
กทพ.จ่อชง คจร.ปรับแบบสร้างทางด่วนN1 จากอุโมงค์เป็นมินิทางด่วนบนดิน มูลค่า 1 หมื่นล้าน พร้อมเร่งดันทางด่วนN2 วงเงิน1.7 หมื่นล้านเข้า ครม.ก่อนเปิดประมูล
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กทพ.อยู่ระหว่างดำเนินโครงการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากประเทศไทยมีปัญหาเรื่องเพดานหนี้สาธารณะ ดังนั้นโครงการก่อสร้างใหม่ๆที่ลงทุนโดยรัฐบาลอาจจะเป็นไปได้ยาก โดยโครงการที่น่าจะยังใช้เงินภาครัฐลงทุนได้ ได้แก่ โครงการทางพิเศษสายกะทู้–ป่าตอง 2 ระยะ 1.ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้–ป่าตอง ระยะทางประมาณ 3.98 กิโลเมตร และ 2.ระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่–เกาะแก้ว–กะทู้ ระยะทางประมาณ 30.6 กิโลเมตร ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ กทพ. ดำเนินก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง (สำหรับรถยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง) ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร และมีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวสายทาง (อุโมงค์ มีระยะทาง 1.85 กิโลเมตร) ด้วยรูปแบบการออกแบบควบคู่การก่อสร้าง (Design & Build) และวงเงินลงทุน 10,964.77 ล้านบาท ปัจจุบัน กทพ. อยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดเลือกผู้รับจ้างในการก่อสร้าง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 73 ส่วนของระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30.62 กม. นั้น คาดว่าจะนำเสนอ ครม. เพื่ออนุมัติภายในปี 69 นี้ หากโครงการทั้ง 2 ระยะ แล้วแสร็จสมบูรณ์ จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่ช่วยลดเวลาเดินทางและเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนได้
ส่วนอีกโครงการที่จะใช้เงินภาครัฐลงทุน คือ โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ช่วงถนนประเสริฐมนูกิจ (แยกทางต่างระดับเชื่อมทางด่วนฉลองรัช) – ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ระยะทาง 7 กม. เป็นทางยกระดับทั้งหมด ขนาด 4 ช่องจราจร มูลค่าลงทุนประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งวงเงินลงทุนมากกว่าเดิม แม้ระยะทางจะสั้นกว่า เนื่องจากต้องก่อสร้างเป็นทางยกระดับ3 เพื่อให้สูงกว่าทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล
ส่วนโครงการอื่นๆ หลังจากนี้น่าจะเป็นการลงทุนในรูปแบบการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน(PPP) หรือการใช้เงินกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) อย่างไรก็ตามในส่วนของโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 นั้นสถานะโครงการอยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 69
โดยโครงการ N2 จะสิ้นสุดที่ถนนประเสริฐมนูกิจ (แยกทางต่างระดับเชื่อมทางด่วนฉลองรัช) ไม่ต้องรอส่วนที่จะต่อเชื่อมไปถึงแครายผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งนี้เพื่อให้โครงการเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว โดยส่วนเชื่ิมต่อนั้นจะไปรวมเข้ากับโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทนตอน N1 ช่วงศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ ซึ่งขณะนี้กทพ.มีข้อสรุปเบื้องต้นว่าควรเชื่อมต่อฝั่งตะวันออกไปฝั่งตะวันตกอย่างไร้รอยต่อ แต่เมื่อ มก.ไม่ให้สร้างทางยกระดับในช่วงที่ผ่าน มก. ทาง กทพ.ก็จะปรับแผนก่อสร้างช่วงที่ผ่าน มก.เป็นมินิทางด่วนบนดินขนานกับทางราบ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการลงทุนเหลือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่จะก่อสร้างเป็นอุโมงค์ต้องใช้วงเงินลงทุนสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท โดย กทพ.จะนำเรื่องนี้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณาโดยเร็วที่สุด หาก คจร.เห็นชอบในหลักการแล้ว กทพ.ก็จะทบทวนผลการศึกษาN1 ทั้งหมดเพราะมีการปรับแบบ จากนั้นจะสรุปเรื่องเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป
ต่อข้อถามถึงแนวคิดของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้กทพ.หารือในที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.เรื่องยกเว้นค่าผ่านทางช่วงอุโมงค์ในโครงการทางพิเศษสายกะทู้–ป่าตองนั้น นายสรุเชษฐ์ กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด กทพ.เห็นชอบให้ กทพ.ไปหารือและขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สภาพัฒน์เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง และนำเสนอที่ประชุมบอร์ดพิจารณาอีกครั้ง
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า กทพ.ได้เร่งรัดการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ปัจจุบันมีความก้าวหน้าร้อยละ 92.13 คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตลอดสายทางได้ภายในปี 69