EGCO คว้าผลประเมินความยั่งยืน ปี68 SET ESG Ratings “ระดับ AA” และการกำกับดูแลกิจการ “ดีเลิศ 5 ดาว”

Loading

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group โชว์ศักยภาพ คว้าผลการประเมินความยั่งยืนในปี 2568 ทั้งระดับประเทศและระดับภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2568 ระดับ “AA” และผลประเมินจากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2568 (CGR 2025) ระดับ “ดีเลิศ 5 ดาว” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 10,000 ล้านบาท ตลอดจนผลประเมิน ASEAN CG Scorecard ประจำปี 2567 (ACGS 2024) ประเภท ASEAN Asset Class PLCs ผลการประเมินทั้งหมดนี้สะท้อนแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทตามกรอบ ESG อย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่อการเป็นบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ที่ให้ความสำคัญและบูรณาการเรื่องความยั่งยืนให้อยู่ในทุกกระบวนการการทำงานและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ และเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่สอดคล้องกับยุคเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน

นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 33 ปี EGCO Group มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาชุมชนและสังคม ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ บนพื้นฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยได้ บูรณาการเรื่องความยั่งยืน (Environmental, Social, Governance – ESG) ไว้ในกระบวนการทำงานอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ดำเนินกิจการใน 7 ประเทศ และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ แนวทางดังกล่าวได้สร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรสู่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนและสังคมภายนอก รวมถึงทำให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเชื่อมั่นในการดำเนินงานของบริษัท ตลอดจนเป็นรากฐานในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืนในระดับสากล”

ทั้งนี้ การประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings จัดโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นประจำทุกปี โดยในปี 2568 มีบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประกาศผลประเมินรวมทั้งสิ้น 265 บริษัท และมีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมิติสิ่งแวดล้อมที่มีคะแนนเฉลี่ยเกิน 80 คะแนน เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศผล SET ESG Ratings ในปีนี้เป็นปีสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนเป็นการประกาศผลการประเมิน FTSE Russell ESG Scores ในปี 2569 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับการประเมินความยั่งยืนในตลาดทุนไทยไปสู่มาตรฐานการประเมินระดับสากล

สำหรับโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อสำรวจและติดตามพัฒนาการด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย และได้นำเสนอผลการประเมินในภาพรวม เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนใช้เป็นแนวทางการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการของตนเอง รวมทั้งเป็นแนวทางสำหรับองค์กรที่เกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบายและกฎระเบียบ เพื่อพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีในประเทศไทยต่อไป โดยในปีนี้มีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมการประเมินรวม 844 แห่ง

ขณะที่การประเมินโครงการ ASEAN CG Scorecard (ACGS) ดำเนินการโดย ASEAN Capital Market Forum (ACMF) ซึ่งเป็นการประเมินที่ทำต่อเนื่องแบบปีเว้นปี โดยผลการประเมินในปี 2568 เป็นการประเมินการดำเนินงานในรอบปี 2567 เพื่อเปิดเผยระดับคุณภาพการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งพิจารณาจากแหล่งข้อมูลของบริษัทที่เผยแพร่สู่สาธารณชนเป็นภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์ โดยรางวัลประเภท ASEAN Asset Class PLCs จะมอบให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับคะแนนตั้งแต่ 97.50 คะแนนขึ้นไป (คิดเป็น 75% ของคะแนนเต็ม 130 คะแนน) ซึ่งมีทั้งสิ้น 250 บริษัท และ EGCO Group เป็นหนึ่งใน 74 บริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รางวัลประเภทนี้