ผู้ชมทั้งหมด 102
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้ปรับแผนแม่บทพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใหม่ โดยได้ปรับขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารตามความขีดความสามารถที่รองรับได้จริง ซึ่งปัจจุบันดำเนินจัดทำแผนใหม่ที่ทบทวนใกล้เสร็จแล้ว น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า แผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งสายการบิน ผู้ใช้บริการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้รับจ้างแล้ว โดยแผนมีความคืบหน้าแล้วประมาณ 70% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ จากนั้นจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ AOT (บอร์ด) เสนอไปยังกระทรวงคมนาคม และคาดว่าจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในปี 2568
แผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้นเน้นการลงทุนพัฒนาในโครงการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ ขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) โครงการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ทางวิ่งเส้นที่ 4 (รันเวย์ที่ 4) ระบบรถไฟฟ้าไร้คนขับ (APM) เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางภายในสนามบิน นอกจากนี้ AOT ยังมีแผนผลักดันศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) และศูนย์คาร์โก้ รวมถึงการพัฒนา “แอร์พอร์ตซิตี้” ทั้งนี้แผนแม่บทที่ปรับปรุงใหม่นั้นจากการดำเนินการศึกษาพบว่า ขีดความสามารถที่รองรับผู้โดยสารได้จริงเท่ากับ 120 ล้านคน จากแผนเดิม 150 ล้านคน
สำหรับโครงการภายใต้แผนแม่บทนั้นคาดว่าสามารถเริ่มดำเนินการเปิดประกวดราคาโครงการแรกได้ในช่วงต้นปี 2569 คือ โครงการ East Expansion มูลค่าลงทุนรวม 12,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ AOT ได้เสนอไปให้ที่กระทรวงคมนาคม และสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ฯ เพื่อขออนุมัติแล้ว คาดว่าจะเสนอให้ครม.พิจารณาได้ภายในปีนี้ อย่างไรก็ตามโครงการ East Expansion ตามแผนแม่บทใหม่มีการปรับเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับปัจจุบัน รวมถึงเทคโนโลยีการให้บริการเพิ่มขึ้นในอาคาร โดยจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในการรองรับผู้โดยสารจากเดิม 65 ล้านคนต่อปี เป็น 70-80 ล้านคนต่อปี โครงการนี้จะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้าง 4 ปี เปิดให้บริการปี 2573
การลงทุนสายพานลำเลียงกระเป๋าขาเข้า มูลค่า 3,900 ล้านบาท สายพานนี้จะเชื่อมจาก Main Terminal ไปยัง SAT-1 และในอนาคตจะเชื่อมต่อไปยัง South Terminal ด้วย ปัจจุบันกระเป๋าขาเข้ายังคงใช้รถลำเลียงเป็นหลัก แต่ระบบใหม่จะใช้เทคโนโลยีสายพานที่ทันสมัยมากขึ้น โดยโครงนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอขออนุมัติ ครม. คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากครม.ภายในปีนี้
ส่วนการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) ถูกออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดไม่เกิน 55 ล้านคน จากแผนเดิมรองรับผู้โดยสาร 70 ล้านคน กรอบวงเงินลงทุน 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งกรอบวงเงินลงทุนจะเท่าเดิมหรือปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ต้องพิจารณาในรายเอียดอีกที เพราะแผนเดิมนั้นมีการพิจารณามาหลายปีแล้ว ขณะที่แผนใหม่ก็ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับภาวะราคาวัสดุ และเทคโนโลยีในการก่อสร้างของปัจจุบัน
สำหรับการประกวดราคาโครงการ South Terminal ยังไม่แน่นอนในเรื่องของช่วงเวลา โดยอาจเริ่มได้ประมาณปี 2569 หากเลือกวิธีประมูลและก่อสร้างไปพร้อมการออกแบบ (Design-build) แต่หากเลือกวิธีออกแบบและประมูล (Design-bid-build) ซึ่งต้องใช้เวลาออกแบบ 2 ปี ถึงจะเปิดให้ประกวดราคาได้