BAFS มั่นใจผลงานQ2/68 โตต่อเนื่อง ปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานหนุน

ผู้ชมทั้งหมด 299 

“บาฟส์” มั่นใจ รายได้ปี2568 โตตามเป้ากว่า 3,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/68 โตต่อเนื่องตามปริมาณการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกระตุ้นท่องเที่ยวหลังเริ่มเห็นสัญญาณเที่บวบินบางประเทศเริ่มชะลอลง ลั่นพร้อมต่ออายุสัมปทานสนามบินสุวรรณภูมิที่จะสิ้นสุดในปี 2569    

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยในงาน Oppday Q1/2025 BAFS วันที่ 28 พ.ค.2568 โดยระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2 ปี 2568 ยังเป็นไปในเชิงบวก จากปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานที่ยังเติบโตจากปีก่อนประมาณ 6% ทั้งในตลาดยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตต่อเนื่อง แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเที่ยวบินในบางตลาด เช่น จีน และเอเชียตะวันออก ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งหามาตรการรณรงค์ให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

บริษัท มั่นใจว่า รายได้ทั้งปีนี้ จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่กว่า 3,800 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน ขณะที่ธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็คาดว่าจะเติบโตขึ้นในทุกไตรมาส หลังจากไตรมาส 1/68 เติบโตขึ้น 24% ส่วน บาฟส์ อินเทค ก็คาดว่ามาร์จิ้น จะเติบโตได้ในตัวเลข 2 หลักซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจ”

ส่วนแผนขยายการลงทุนในสนามบินดอนเมืองและอู่ตะเภานั้น ในส่วนของสนามบินดอนเมือง จะเห็นว่าทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT มีแผนขยายสนามบิน เฟส 3 (Terminal 3) ที่ปัจจุบันรองรับนักท่องเที่ยวไป 29.75 ล้านคนต่อปี และเพิ่มขึ้นเป็น 30-50 ล้านคนในปี 2573 นั้น ซึ่งจากปริมาณน้ำมันอากาศยานที่บริษัท ให้บริการที่สนามบินดอนเมืองจุดสูงสุดอยู่ที่ 3 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่ขีดความสามารถในการจัดเก็บน้ำมันของบริษัท อยู่ที่ 21 ล้านลิตร ฉะนั้นหากขยายสนามบินรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2 เท่า ขีดความสามารถในการจัดเก็บน้ำมันของบริษัทก็มีเพียงพอ สามารถรองรับการเติบโตของสนามบินได้อีกนาน

ขณะที่สนามบินอู่ตะเภา ทางบริษัท ได้ร่วมทุนกับ OR ในโครงการการให้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบการระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา (โครงการ ) โดย BAFS ถือหุ้นในสัดส่วน 55% และ OR ถือหุ้นในสัดส่วน 45% มูลค่าลงทุน 2,337 ล้านบาท เพื่อดำเนินงาน บริหารจัดการ และให้บริการระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน สนามบินอู่ตะเภา ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะคืนทุนหลังจากสนามบินเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว

สำหรับความคืบหน้าการต่อสัญญาสัมปทานสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ปัจจุบัน บริษัทมีสัญญาเป็นผู้ใช้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในสนามนั้น จะสิ้นสุดสัญญาเดิมในปี 2569 ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพิจารณาต่อสัญญาสัมปทาน และยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลหรือประกาศขายTOR ออกมา ฉะนั้นในส่วนของบริษัท ขอยืนยันว่ามีความพร้อมทั้งบุคลากร เทคโนโลยี และมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงกว่าระดับสากล จจึงมีศักยภาพที่จะดำเนินงานในระยะต่อไป เพื่อขยายขีดความสามารถแข่งขันรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในอนาคต

ทั้งนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ที่มีสัญญาณชะลอตัวลง บริษัท จะเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยจะเน้นการลงทุนในโครงการที่มีความจำเป็น เช่น เชื่อมท่อส่งน้ำมัน ของ บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด ที่ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงข่ายท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ ระยะที่ 3 (อ่างทอง-สระบุรี) คาดว่า จะก่อสร้างเสร็จในปี 2569 ขณะที่สถานะการเงินของบริษัท ยังแข็งแกร่ง โดยสิ้นไตรมาส 1 ปี 2568  มีเงินสดอยู่ที่ 815 ล้านบาท