ผู้ชมทั้งหมด 1,260
“บีบีจีไอ” ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.แล้ว เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 433.20 ล้านหุ้น เดินหน้าธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงเต็มสูบ พร้อมแต่งตั้ง บล.กรุงไทย ซีมิโก้ นั่งที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ “BBGI” ผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ ผู้บุกเบิกธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพในประเทศไทย ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 433.20 ล้านหุ้น
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2022/01/ไม่มีชื่อ-1920-x-1080-px-2-1024x576.png)
นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (“BBGI” หรือ กลุ่มบริษัทฯ) เปิดเผยว่า BBGI เริ่มต้นมาจากการผนึกกำลังของ 2 ผู้นำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (Bio-based Products) ระหว่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือบางจากฯ ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทยที่มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ มุ่งพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรมสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายรายใหญ่อันดับ ที่ 4 ของประเทศ มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลทรายอย่างครบวงจร ทำให้ BBGI มีรากฐานที่แข็งแกร่ง พร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพด้วยนวัตกรรมสีเขียว
ทั้งนี้ BBGI ดำเนินธุรกิจโดยการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ประกอบด้วย (1) ธุรกิจหลัก คือธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (Bio-based Products) ประเภทผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ได้แก่ ไบโอดีเซล กลีเซอรีนบริสุทธิ์เกรดอาหารและยา เอทานอล แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเกรดเภสัชกรรม และ (2) ธุรกิจอื่น คือธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Value Bio-Based Products หรือ HVP) ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ (Health and Well-Being) ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงโดยจดสิทธิบัตรหรือได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่ง BBGI เป็นเจ้าของหรือได้รับสิทธิบัตรดังกล่าว
“ บีบีจีไอ มีจุดแข็งเป็น Flagship ของกลุ่มบางจากและกลุ่มน้ำตาลขอนแก่น ในด้านผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพและผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพด้วยนวัตกรรมสีเขียว”
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายไบโอดีเซลชั้นนำของไทย จำหน่ายแก่ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศทั้งบางจากฯ และผู้ค้าน้ำมันรายอื่น ๆ โดยมีโรงงานผลิตไบโอดีเซลตั้งอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังการผลิตรวม 1,000,000 ลิตรต่อวัน นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ผลิตและผู้ค้าเอทานอลชั้นนำของประเทศ จำหน่ายแก่ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดียวกับธุรกิจไบโอดีเซล โดยมีโรงงานผลิตเอทานอลทั้งหมด 3 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น กาญจนบุรี และ ฉะเชิงเทรา กำลังการผลิตรวมสำหรับเอทานอลทั้งหมด 600,000 ลิตรต่อวัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตเอทานอล เพิ่มอีก 200,000 ลิตรต่อวัน เพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานเชื้อเพลิงให้แก่ประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2564 กลุ่มบริษัทฯ ได้เริ่มนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ และมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพด้วยนวัตกรรมสีเขียว ผ่านการเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพ หรือ ธุรกิจชั้นนำที่มีความรู้ความสามารถในเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับโมเดล Bio-Circular-Green Economy (BCG) 2564 – 2569 ของภาครัฐ เพื่อร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายของการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
นางสาวบุษราภรณ์ จันทร์ชูเชิด รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จํากัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 บมจ.บีบีจีไอ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 433.20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 30.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด แบ่งเป็น
1.) ส่วนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือบางจากฯ และ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น (Pre-emptive Rights)
2.) ส่วนที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป รวมถึง ผู้มีอุปการะคุณของบริษัทฯและบริษัทย่อย หรือบุคคลที่มีความสัมพันธ์ ตามเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (“Cornerstone Investors”) (ถ้ามี) และผู้ลงทุนสถาบัน
![](https://www.ten-news.com/wp-content/uploads/2022/01/S__165625896-1024x1024.jpg)
สำหรับ BBGI มีทุนจดทะเบียน 3,615.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,446.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2.50 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งสิ้น 2,532.00 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,012.80 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ส่วนหนึ่งนำไปลงทุนขยายกิจการ และลงทุนในโครงการในอนาคตของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงกระบวนการพัฒนา ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินการ ของกลุ่มบริษัทฯ และบริษัทย่อย ส่วนที่เหลือจะใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงินและชำระคืนหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่งบริษัทฯ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน